หน้าแรก / ทัวร์ทั้งหมด / ITALY SWISS FRANCE มิลาน โคโม ลูเซิร์น อินเทอร์ลาเก้น จุงเฟรา กอลมาร์ สตาบูร์ก ปารีส
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ | เด็กมีเตียง | เด็กไม่มีเตียง | พักเดี่ยว | เด็กทารก | จอยแลนด์ | Group Size | สถานะ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
08 ต.ค. 68 - 15 ต.ค. 68 | ฿ 82,990 | - | - | ฿ 15,000 | ฿ 20,000 | - | 20 | จองเลย |
15.30 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย Let’s Go พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
18.30 ออกเดินทางสู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ711 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
21.55 เดินทางถึง สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ และรอต่อเครื่อง
23.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิลาโน มัลเปนซา ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ378
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.30 เดินทางถึง สนามบินมิลาโน มัลเปนซา ประเทศอิตาลี หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตามรายการ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
นำท่านสู่ เมืองมิลาน (Milan) เมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ นำท่านชม มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo de Milan) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลานเปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิลาน เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลี
นำท่านสู่ แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittario Emanuele II) ที่นับเป็นศูนย์การค้าที่
สวยงามหรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน โดยมี อนุเสาวรีย์ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Vittorio Emanuele II Monument) ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆ ในอิตาลี และอนุเสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรอเนสซองซ์อีกท่านคือ ลิโอนาร์ โด ดาร์วินซี่
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านสู่ เมืองโคโม (Como) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดน
กับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลสาบโคโมและเทือกเขาแอลป์ ถ่ายรูปกับ ทะเลสาบโคโม (Como Lake) เป็นทะเลสาบที่มีต้นกำเนิดจากธารน้ำแข็งในแคว้นลอมบาร์เดียประเทศอิตาลีมีพื้นที่ 146 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามในอิตาลีรองจากทะเลสาบการ์ดาและลโกมา ด้วยความลึกมากกว่า 400 เมตร จึงเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในลำดับที่ 5 ในยุโรป ทะเลสาบโคโมเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับขุนนางและคนรวยมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในสมัยปัจจุบัน ซึ่งมีพระราชวังมากมาย ลักษณะที่โดดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้คือ รูปร่างของทะเลสาบมองแล้วคล้ายตัว “Y” ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียกว่า “Larian Triangle” ในปี 2014 The Huffington Post ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (เดินทางประมาณ 3 ชม.) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2) พิเศษ!! เมนูฟองดูว์ชีส และ ช็อกโกแลต
ที่พัก Hotel Arcade AG, Lucerne ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำท่านสู่ เมืองกรินเดลวัลด์ (Grindelwald) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองตากอากาศเล็กๆแสนสวยงามของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของ สถานีรถไฟกรินเดลวัลด์ (Grindelwald Terminal Station) นำท่านนั่ง เคเบิ้ลคาร์ Eiger Express พิชิตยอดเขาจุงเฟรา เปลี่ยนขบวนรถไฟที่ สถานีรถไฟไอเกอร์เกล็ทเชอร์ มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ขึ้นสู่ยอดเขาสถานีปลายทางสถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป เดินทางถึง ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau / Top of Europe) หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก นำท่านเข้าชม ถ้ำน้ำแข็งพันปี (Ice Palace) เป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็งลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆ และ ลานสฟิงซ์ จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สัมผัสกับภาพของ ธารน้ำแข็ง (Aletsch Glacier) ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีความยาวถึง 22 กิโลเมตรและความหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและกิจกรรมบนยอดเขา ที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดย ที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น สุดพิเศษบริการอาหารกลางวันบนยอดเขาจุงเฟรา (4) (กรณีร้านอาหารบนยอดเขาจุงเฟราไม่สามารถรองรับคณะได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตามทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นำท่านรับประทานอาหารที่ภัตตาคารในเมืองใกล้เคียงเป็นการทดแทน)
จากนั้นนำท่านไปยังเมืองลูเซิร์นเพื่อชม อนุสาวรีย์สิงโตหินแกะสลัก (Lion Monument of Lucerne) แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตเซอร์แลนด์ที่เกิดจากการปฏิวัติ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปีค.ศ. 1792 นำท่านสู่ สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป อิสระให้ช้อปปิ้ง ย่านชวาเน่นท์พลัทซ์ (Schwanenplatz หรือจัตุรัสหงส์) ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองลูเซิร์น เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้าชั้นดีของชาวสวิตในเขตย่านเมืองเก่าจำหน่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาเซิล (Basel) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) บาเซิลเป็นเมืองพรมแดนสวิส เยอรมัน ฝรั่งเศส มาบรรจบกัน
ค่ำ อิสระอาหารค่ำเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเวลาท่องเที่ยวของท่าน
ที่พัก Holiday Inn Express, Basel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
นำท่านชม ย่านเมืองเก่าบาเซิล (Basel Old Town) พาชม บาเซิลมินสเตอร์ (Basel Minster) เป็นอาคารทางศาสนาในเมืองบาเซิลของสวิส มหาวิหารเดิมถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1019 และ ค.ศ. 1500 ในโรมันและโกธิครูปแบบ ปลายโรมันอาคารถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวที่เกิดที่เมืองบาเซิล เมื่อปี ค.ศ. 1356 และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นอาคารที่สวยงามตระการตาด้วยผนังหินทรายสีแดงอมชมพูและหลังคาที่มีลวดลายเป็นกระจก ผ่านชม ศาลากลางบาเซิล (City Hall of Basel) มีอายุมากกว่า 500 ปี
นำท่านสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (เดินทางประมาณ 30 นาที) “เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส” (Capitale des Vins d’Alsace) นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยอาคารไม้โบราณ และที่อยู่อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางเมืองแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก จนได้รับฉายา Little Venice เมืองกอลมาร์ยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรและช่างแกะพิมพ์อย่างมาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพที่มหานครนิวยอร์ค
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (6)
นำท่านสู่ เมืองสตราส์บูร์ก (Strasbourg) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอาลซัส (Alsace) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แบ่งออกเป็นเขตเมืองเก่าและเขตเมือง เป็นเมืองที่มีข้อพิพาทระหว่างเยอรมันกับฝรั่งเศสมาหลายศตวรรษ บ้านเมืองแห่งนี้จึงมีความผสมผสานระหว่างทั้งสองประเทศ นำท่านชม มหาวิหารแห่งสตราส์บูร์ก (Cathedrale Notre Dame de Strasbourg) เป็นมหาวิหารแห่งแรกของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นในสไตล์โกธิค (Gothic) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศสในยุคนั้น เป็นวิหารที่มีความสูงที่สุดในยุโรปแถบตะวันตกโดยองค์กรยูเนสโก นำท่านชม ย่าน Little France ในภาษาอังกฤษ ย่านประวัติศาสตร์ของเมืองสตราส์บูร์ก เป็นย่านที่มีแม่น้ำไหลออกหลายช่องทาง ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอีล (River ill) ชาวบ้านสมัยก่อนนิยมทำการฟอกหนัง ทำให้น้ำเน่าเสียมีกลิ่นเหม็นเต็มไปด้วยบ้านเรือนครึ่งไม้ โคลัมเบจ สีดำและขาว โครงสร้างเก่าแก่ที่แปลกตาเหล่านี้มาจากทศวรรษที่ 1500 -1600
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (7)
ที่พัก Holiday Inn Express, Strasbourg ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านสู่ เมืองแร็งส์ (Reims) (เดินทางประมาณ 4 ชม.) เป็นเมืองในจังหวัดมาร์น ในแคว้นช็องปาญาร์แดนของประเทศฝรั่งเศส เมืองแร็งส์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองปารีสราว 129 กิโลเมตร นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารน็อทร์ดามแห่งแร็งส์ (Notre-Dame de Reims) ที่เป็นจุดเด่นของเมืองนี้ สถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตาและ มีประตูวิหารขนาดใหญ่ มหาวิหารแห่งนี้มีหอคอยคู่อันสูงใหญ่ที่มองเห็นได้จากทั่วตัวเมือง แวะนั่งในโบสถ์และซึมซับบรรยากาศอันเงียบสงบของศาสนสถานแห่งนี้
เที่ยง บริการอาหารดเที่ยง ณ ภัตตาคาร (9)
นำท่านสู่ เอาท์เล็ท ลาวาเล่ (La Vallée Village) (เดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เอาท์เล็ทช้อปปิ้งชื่อดังใกล้เมืองปารีส เอาท์เล็ทแห่งนี้เป็นสถานที่ช้อปปิ้งที่มีสิ่งอำนวย ความสะดวกครบครัน เป็นแหล่งช้อปปิ้งใกล้ปารีสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ La Vallée Village รวบรวมร้านค้าของแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ต่างๆไว้มากว่า 110 ร้านค้า จากนั้นนำท่านสู่ เมืองปารีส (Paris) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ปารีสเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ตั้งถิ่นฐานมามากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลกและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งของโลก ด้วยเสน่ห์ของเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย ตั้งแต่การออกแบบภายนอกและเมื่อเข้าไปด้านในก็ยิ่งสวยงาม รวมถึงผลงานศิลปะระดับก้องโลกที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีอยู่นับไม่ถ้วน
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวของท่าน
ที่พัก Brit Hotel Privilège, Paris ระดับ 4 ดาว หรือระดับเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)
นำท่านสู่ ทรอกาเดโร (Trocadero) อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดงานนิทรรศการ สร้างในสถาปัตยกรรมแบบ Neo Classic ได้มีการรื้อถอนอาคารเดิมและสร้างอาคารแบบใหม่ชื่อว่า ปาแลเดอชาโย (Palais de Chaillot) สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหอไอเฟลได้จากจัตุรัส ทรอกาเดโรแห่งนี้ ที่นี่จึงถือเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนปารีสต้องมาถ่ายรูปวิวหอไอเฟล ณ ลานแห่งนี้ อิสระให้ท่านถ่ายรูปคู่กับ วิวทิวทัศน์หอไอเฟล (Tour Eiffel) แลนด์มาร์คแห่งฝรั่งเศส นำท่านชม ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) เป็นผลงานสถาปัตยกรรม ที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง ที่มีอายุกว่า 200 ปี สร้างขึ้นปีพ.ศ. 2349 หลังจากที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้รับชัยชนะจากยุทธการ เอาสเตอร์ลิทซ์ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่าสามสิบปี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (11) พิเศษ เมนูหอยเอสคาโก้
นำท่าน ล่องเรือชมแม่น้ำแซน (Bateaux-Mouches) เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่มีประวัติมายาวนาน มีความยาวถึง 776 กิโลเมตร โดยต้นสายมาจากเทือกเขาแอตแลนติกที่ติดกับตอนเหนือของฝรั่งเศส ไหลยาวลงมาจนถึงกรุงปารีสและไหลลงสู่ช่องแคบอังกฤษที่เลออาฟวร์ (ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง) ชมสถานที่สำคัญที่แม่น้ำทอดผ่านทั่วเมืองปารีส นำท่านถ่ายรูปกับ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louver Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ พีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ออกแบบโดย ไอ.เอ็ม.เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน อิสระให้ท่านเดินชมพิพิธภัณฑ์และช้อปปิ้งสินค้าที่ ห้างปลอดภาษีเบนลักซ์ (Duty Free Benlux) ห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ในราคาที่ไม่แพงและบรรยากาศที่หรูหราตระการตา พร้อมทั้งมีพนักงานและข้อความภาษาไทยในห้างนี้ นำท่านเดินทางสู่ ห้างสรรพสินค้าแกลลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette) ตั้งอยู่บน Boulevard Haussmann ในเขตที่ 9 ของกรุงปารีสใกล้กับ Opera Garnier มีแบรนด์หลากหลายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ร้านเพื่อให้เหมาะกับทุกงบประมาณ ตั้งแต่เสื้อผ้าสำเร็จรูปไปจนถึงแฟชั่นชั้นสูง สถาปัตยกรรมของร้านเป็นแบบอาร์ตนูโว มีโดมที่โดดเด่นและทัศนียภาพอันงดงามของกรุงปารีส ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของฝรั่งเศส อิสระให้ท่านช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวของท่าน
ที่พัก Brit Hotel Privilège, Paris ระดับ 4 ดาว หรือระดับเทียบเท่า
เช้า บริกาอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)
นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.) หรือที่เรียกว่า “Château de Versailles” ในภาษาฝรั่งเศส สถานที่อันหรูหราแห่งนี้เป็นพระราชวังหลวงตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่สำคัญคือพระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อปีค.ศ. 1979 จากองค์การยูเนสโก พระราชวังแวร์ซายส์เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีพระประสงค์ให้สร้างพระราชวังขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ โดยใช้เงินในการสร้างทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ และคนงานกว่า 30,000 คน โดยพระราชวังใหญ่โตสวยงามแห่งนี้สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ภายในแบ่งออกเป็นห้อง เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ เป็นต้น ซึ่งแต่ละห้องล้วนมีเครื่องประดับหรูหราและภาพเขียนที่มีชื่อเสียงประดับอยู่ตามผนังห้อง ซึ่งทั่วโลกยกย่องว่า พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นที่รวบรวมเอกลักษณ์แห่งศิลปกรรมของฝรั่งเศสที่เคยกระฉ่อนโลกทั้งมวล จนมีคำกล่าวว่า “คราใดใครได้เยือนแวร์ซายส์ ครานั้นเขาได้เห็นโลกอันศิวิไลซ์ที่แท้จริงแล้ว” พระราชวังแวร์ซายส์จัดห้องเป็นสัดส่วนอย่างสมพระเกียรติที่สุดและแต่ละห้องได้สร้างอย่าง วิจิตรบรรจง ให้ความสอดคล้องกับเหตุการณ์และนามของห้องอย่างยิ่ง ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ ห้องกระจก (The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของแวร์ซายส์ในรอบ 4 ศตวรรษ ออกแบบโดยสถาปนิกเอก มอนสาร์ท ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงกำกับการก่อสร้าง (**อัตรานี้รวมค่าเข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์เรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์นำท่านเข้าชมพระราชวังหลวง Palais Royal เป็นการทดแทน)
เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (13)
นำท่านเดินทางสู่ ย่านมงต์มาตร์ (Montmartre) (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที) เป็นย่านสำคัญอีกแห่ง ของเมืองปารีส อยู่สุดเขตทางเหนือของปารีส มีลักษณะเป็นรวมถึงยังเป็นจุดกำเนิดผลงานด้านศิลปะ ของศิลปินมากมายแห่งของเมืองปารีสในอดีต
นำท่านชม มหาวิหารซาเครเกอร์ (Sacré-Cœur) หรือมหาวิหารแห่งพระหฤทัย ความสูง 83 เมตร ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกที่ตั้งอยู่บนเนิน Montmartre หรือเรียกอีกชื่อว่า ภูเขาแห่งผู้พลีชีพในศาสนา ภายในโบสถ์ยังมีภาพโมเสกที่ใหญ่ที่สุดโลก รวมถึงไปป์ออแกนขนาดใหญ่ของโบสถ์ ที่ถูกสร้างโดย อริสทิด คาวาเย – คอลต์ ประติมากรรมของมหาวิหารซาเครเกอร์จะเป็นการก่อสร้างสไตล์บาเซนไท ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์มีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นสถานที่สำหรับหนุ่มสาวนิยมมาเดินเล่นกัน ถ่ายภาพ และด้านหน้าโบสถ์ยังมีจุดขายของที่ระลึกอีกด้วย
จากนั้นนำท่านสู่ สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินปารีส ชาร์ล เดอโกล ประเทศฝรั่งเศส
22.40 ออกเดินทางสู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ331
17.30 เดินทางถึง สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ เพื่อรอการเปลี่ยนเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ
18.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ720
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
20.00 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ… พร้อมความประทับใจ