เวลาทำการ

จันทร์ - ศุกร์ 09.00 -18.00 น.

เที่ยวแบบกรุ๊ปเหมาแอดเลย

Travel License : 11/06178

มหัศจรรย์ ยุโรป เยอรมัน สวิส ฝรั่งเศส 9วัน 6คืน

วันเดินทางและราคา

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง พักเดี่ยว เด็กทารก จอยแลนด์ Group Size สถานะ
18 ต.ค. 68 - 26 ต.ค. 68 ฿ 119,999 - - ฿ 16,999 - - จองเลย

รายละเอียดโปรแกรม

  • Day : 1
    สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    19.35 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการคอนดอร์ แอร์ไลน์ Condor Airlines (DE) โดยมี เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน

    21.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เที่ยวบินท่ี DE2363 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)

  • Day : 2
    สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน - เมืองไฮเดิลเบิร์ก - ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก - สะพานเก่าAlte Brucke - จัตุรัสคอร์นมาร์ค - Mercedes-Benz Museum - เมืองสตุทท์ การ์ด

    05.15 น. เดินทางถึง สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านขั้นตอนการ
    ตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร และนำท่านขึ้นรถโค้ชเพื่อเดินทาง เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    เมืองไฮเดิลเบิร์ก Heidelberg (เดินทางประมาณ 1 ชม.) ไฮเดิลแบร์คเป็นเมือง ใหญ่อันดับห้าในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค มหาวิทยาลัยไฮเดิลเบิร์กซึ่ง สถาปนาขึ้นในปีค.ศ. 1386 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับ ที่สุดของยุโรป ทำให้เมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ประชากรกว่า หนึ่งในสี่เป็นนักศึกษา นอกจากนี้ อาคารสิ่งก่อสร้างในเมืองยังก่อสร้างด้วย สถาปัตยกรรมศิลปะจินตนิยม และบารอก ทำให้ไฮเดิลเบิร์กถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองโรแมนติก” ซึ่งดึงดูดผู้คนกว่า 3.5 ล้านคนมาเยือนในทุกปี

    นำทานนั่งรถไฟราง สู่ ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก Heidelberg Castle เมื่อเข้ามาใน เขตของตัวปราสาทจะพบอาคารสวยงามอยู่ด้านหน้า เป็นอาคารสไตล์เรอเนส ซองค์ที่ตกแต่งผนังด้วยกระจก มีรูปปั้นพระเจ้าเฟเดอริกที่4 ประดับรูปสลัก

    กษัตริย์ตระกูลวิทเทลส์บาค 16 องค์ คั่นระหว่างช่องหน้าต่าง สร้างด้วยหินทรายแดง และบริเวณหน้าอาคารนี้เองที่ กลายเป็นฉากถ่ายรูปที่สวย และมีทางเดินลาดเอียงลงไปสู้ห้องเก็บไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

    การเข้าชมปราสาทไฮเดิลเบิร์ก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ กรณีคณะไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายได้เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับ ผู้แทนแล้ว ทั้งนี้บริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

    สะพานเก่า Alte Brucke ที่มีลิงบรอนซ์ สัญลักษณ์แห่งความไร้ยางอายของมนุษย์ เชื่อกันว่าเมื่อเอา มือมาลูบเหรียญที่ลิงตัวนี้ถือ จะสมหวังและร่ำรวยสะพานหินหกซุ้มโค้งทอดยาวข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ช่วงปี 1786-1788 เชื่อมต่อประตูเมืองเก่าที่โดดเด่นด้วยยอดหอคอทรงกรวยแหลมแบบบารอคในช่วง ศตวรรษที่ 13 เมื่อเดินข้ามสะพานจะเห็นปราสาทไฮเดลแบร์กสีชมพูอมแดงตั้งเด่งเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา รวมถึงอาคารบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำเน็คคาร์ บรรยากาศของเมืองนี้ดูโรแมนติก

    จัตุรัสคอร์นมาร์ค จัตุรัสแห่งแรกตั้งชื่อตามตลาดขายเมล็ดพันธุ์และข้าวโพด ตั้งแต่ยุคกลาง มีรูปปัั้นประแม่มารีอุ้มบุตรประทับอยู่บนโล่ทองคำ สร้างขึ้นเมื่อ ปี 1985 เพื่อให้ชาวเมืองหันมานับถือคาทอลิกดังเดิม มาถึงแล้วก็ต้องเดินเล่น ชมเมืองอันแสนคลาสสิคนี้เสียก่อน ถนนคนเดินที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของ เยอรมัน มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารและร้านขายหนังสือ เนื่องจากที่นี่ เป็นเมืองมหาวิทยาลัย พลาดไม่ได้คือร้านขายเบียร์ที่ตั้งโต๊ะออกมาด้านนอก สำหรับลูกค้าที่ต้องการจิบเบียร์เบาๆรับลมหนาว แต่ละร้านนั้นตกแต่งแบบมีสไตล์ น่าถ่ายรูปเป็นอย่างมาก

    เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารจีน

    นำท่านเข้าชม Mercedes-Benz Museum (เดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ณ เมือง Stuttgart ประเทศ Germany สถานที่แห่งนี้รวบรวม ประวัติความเป็นมาของยนตกรรม แบรนด์ตั้งแต่ยุคสมัยอดีตกาล จนถึงปัจจุบัน Stuttgart นั้นยังเป็นเมืองบ้านเกิดของค่ายรถยนต์ Mercesdes-Benz รวมไปถึงเป็นสำนักงานใหญ่ Museum แห่งนี้ได้ ทำการเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 19 MAY 2006, ตัว ตึกอาคารได้มีการออกแบบได้อย่างสวยงามเป็นทรง double helix ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทุกชั้นได้อย่างต่อเนื่องและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ *กรณีคณะไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวน สิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายได้เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนแล้ว ทั้งนี้บริษัทจะค านึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นส าคัญ* เมืองสตุทท์การ์ด Stuttgart (เดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงในฐานะ “แหล่งกำเนิด รถยนต์” ในอดีต สโลแกนการท่องเที่ยวของเมืองคือ “ชตุทการ์ทเสนอได้มากกว่า” ต่อมามีการเปลี่ยนโลโก้และสโลแกน ใหม่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ไปเป็น “Das neue Herz Europas” “หัวใจใหม่ของยุโรป” ในกรกฎาคม ค.ศ. 2010

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

    ที่พัก Holiday Inn Stuttgart หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

    -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน

  • Day : 3
    เมืองสตุทท์การ์ดต - จัตุรัส Castle Square - ปราสาทใหม่ - ปราสาทโฮเอินโซล เลิร์น - เมืองซีคมาริงเงิน - ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นเซีคมาริงเงิน

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    นำท่านสู่ จัตุรัส Castle Square ตั้งอยู่ด้านหน้าพระราชวัง ซึ่งเป็นลานสาธารณะที่ประกอบด้วยสนามหญ้าและทางเดิน กว้าง อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาที่เรียกกันว่ารูปปัั้นคองคอร์เดีย ตั้งตระหง่านอยู่ในใจกลางจัตุรัส นั่งบนม้านั่งหรือ เอนหลังลงบนสนามหญ้า เพื่อชมผู้คนเดินผ่านไปมาและชื่นชมภูมิทัศน์สถาปัตยกรรมที่ล้อมรอบ จัตุรัสจัดงานตลอดทั้งปี ตั้งแต่คอนเสิร์ตกลางแจ้งฤดูร้อนไปจนถึงตลาดคริสต์มาส ซึ่งเหมือนเป็นเหมือนสวนสาธารณะกลางเมือง ที่มีฉากหลังเป็น ปราสาทใหม่ (Neues Schloss) ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับที่ตั้งตระหง่านเหนือใจกลางเมืองสตุทท์การ์ท ดยุค คาร์ล ออยเกนแห่งเวือร์ทเทมแบร์ก เป็นผู้ก่อตั้งพระราชวังแห่งนี้โดยมีความประสงค์ที่จะสร้างที่อยู่อาศัยให้สมเกียรติด ยุคแห่งเวือร์ทเทมแบร์ก

    นำท่านเข้าชม ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) (เดินทาง ประมาณ 1 ชม.) คือปราสาทโบราณสไตล์นีโอโกธิคที่ตั้งอยู่บนยอดเขาโฮเอิน โซลเลิร์น (Mount Hohenzollern) ที่ระดับความสูง 855 เมตรเหนือ ระดับน้ำทะเล ปราสาทแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งปราสาทเทพนิยายที่ถูดจัดให้เป็น หนึ่งใน 4 ปราสาทที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเยอรมัน มีจุดเด่นคือยอดแหลม ของตัวปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์นสูงเด่นเป็นสง่า ปราสาทแห่งนี้ถือเป็น กรรมสิทธิ์ของตระกูลโฮเอินท์ซ็อลเลิร์นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ตาม เอกสารอ้างอิงสันนิษฐานว่าปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น ป้อมปราการของภูมิภาค เฟรเดอริควิลเลียมที่ 4 แห่งปรัสเซีย ได้สร้าง ขึ้นมาใหม่ให้มีขนาดใหญ่ และสวยงาม การเข้าชมปราสาทโฮเอินโซลเลิร์น ขึ้นอยู่ กับสถานการณ์ และ สภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ กรณีคณะไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายได้เนื่องจากเป็นการ ชำระล่วงหน้ากับผู้แทนแล้ว ทั้งนี้บริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

    และที่พลาดชมไม่ได้ที่ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นแห่งนี้ก็คือ “มงกุฎเพชรปรัสเซีย” ซึ่งเป็น มงกุฎที่สร้างจากเพชร และทองคำสมัยโบราณซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นปราสาทที่มีป้อมปราการมากที่สุดในเยอรมนีอีกด้วย ที่สุดสำหรับ นักท่องเที่ยวคือภายในปราสาทนั้นมีทั้งคาเฟ่และลานเบียร์ ให้ได้นั่งพักชิลล์ๆ ในบรรยากาศสุดอลังอีกด้วย

    เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
    เมืองซีคมาริงเงิน (Sigmaringen) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองชนบทในรัฐบา เดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ทางภาคใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ในหุบเขาขนาดเล็กซึ่งมี แม่น้ำดานูบไหลผ่าน ซีคมาริงเงินถูกกล่าวถึงครั้งแรกในเอกสารปี 1077 ซึ่งมีการสร้างปราสาทหลังแรกบนเนินเขา และเคยเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชรัฐโฮเอินท์ซ็อล เลิร์น-ซีคมาริงเงินจนถึงปี 1850 แล้วจึงถูกยุบเป็นมณฑลโฮเอินท์ซ็อลเลิร์นของ ราชอาณาจักรปรัสเซีย

    นำท่านชมด้านนอกของ ปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นเซีคมาริงเงิน (Hohenzollern Sigmaringen Castle) แห่งนี้เป็น พระราชวังประจำเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมนี เป็นอนุสาวรีย์ทางวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เลยค่ะ นอกจากนั้น Hohenzollern ใน Sigmaringen นี้ ยังถือเป็นขุมทรัพย์แห่งประวัติศาสตร์เยอรมันและ ยุโรปอีกด้วย*ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเข้าปราสาท ราคาเข้าปราสาท และห้องเก็บอาวุธ (มีไกด์นำเที่ยวและออดิโอไกด์) ผู้ใหญ่ราคา 12.50 ยูโรโดยประมาณ*

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

    ที่พัก Karls Hotel Sigmaringen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

    -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน

  • Day : 4
    เมืองซูริค - จุดชมวิวลินเดอฮอฟ - โบสถ์เซ็นท์ปีเตอร์ - มหาวิหารกลอสมุสเตอร์ - ถนน บาร์นฮอฟ - เมืองลูเซิร์น - อนุสาวรีย์สิงโต - สะพานไม้ชาเปล - เขตเมืองเก่า

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค(Zurich)(เดินทางประมาณ 1.45 ชม.) ศูนย์กลางด้านการเงิน เศรษฐกิจ การคมนาคมและการธนาคารของ ยุโรปให้ท่านได้เพลิดเพลินเดินเล่นในเมืองซูริค พาท่านชม จุดชมวิวลิน เดอฮอฟ (Lindenhof) 1 ในจุดที่มีความสวยงามที่สุดของเมืองซูริค ก่อนพาท่านเดินชม โบสถ์เซ็นท์ปีเตอร์ (St. Peter) โบสถ์เก่าแก่ของ เมือง และมหาวิหารกลอสมุสเตอร์ (Grossmünster) ที่เด่นตะหง่านด้วยหอคอยคู่ นับเป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดของเมืองซูริคและให้ท่าน ได้อิสระช้อปปิ้งที่บริเวณ ถนนบาร์นฮอฟ (Bahnhofstrasse) ถนนสายช้อปปิ้งของเมือง อัดแน่นไปด้วยด้วยร้านรวงต่างๆ ให้ท่านได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ

    เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

    เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (เดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองท่องเที่ยวยอด นิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา น าท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็น การรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาด มาที่นี่ นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของ เมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของ สถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคาร สไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้

    ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาท่องเที่ยว และช้อปปิ้ง

    ที่พัก Ibis Styles Lucerne หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

    -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับ เทียบเท่ากัน

  • Day : 5
    เมืองลูเซิร์น - เมืองกรินเดลวัลด์ - เคเบิ้ลคาร์ Eiger Express - ธารน้ำแข็ง - ยอดเขาจุงเฟรา - ถ้ำน้ำแข็ง - ลานสฟิงซ์ - เมืองอินเทอร์ลาเก้น - เมืองบาเซิล

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดลวัลด์ (Grindelwald)(เดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมือง ตากอากาศเล็กๆ แสนสวยงามของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของ สถานีรถไฟ กรินเดลวัลด์ เทอร์มินอล (Grindelwald Terminal Station) นำท่าน ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ Eiger Express พิชิตยอดเขาจุงเฟรา เปลี่ยนขบวนรถไฟที่ สถานีรถไฟไอเกอร์เกล็ทเชอร์ มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขา ท่านจะได้ผ่านชมความสวยงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง คือ ธารน้ำแข็ง บริเวณเชิงเขาก่อนถึง สถานีปลายทางสถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป เดินทางถึง ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau / Top of Europe) หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขา แอลป์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก นำท่านเข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึก ลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆ และ ลานส ฟิงซ์ จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้ กว้างไกลที่ถึงชายแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สัมผัสกับภาพของ ธารน้ำแข็ง (Aletsch Glacier) ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีความยาวถึง 22 ก.ม. และความหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและกิจกรรมบนยอดเขา ที่ไม่ควรพลาดกับการ ส่งโปสการ์ดโดย ที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป ไปหาบุคคลที่ท่านนึกถึงในช่วงเวลาที่ดีที่สุด

    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร บนยอดเขาจุงเฟรา *กรณีร้านอาหารไม่สามารถรองรับได้ ไม่ว่ากรณี ใดทางบริษัทขอนำท่านรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารในเมืองใกล้เคียงเป็นการทดแทน*

    นำท่านสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (Interlaken) (เดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองตากอากาศ สวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่ง ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ อิสระให้ท่านเดิน เล่นพักผ่อนชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้ เล็กๆ น่ารัก สร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาล อายุกว่า 100 ปี ที่ งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและยังเป็นคาสิโน ของเมืองอีกด้วย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งร้านนาฬิกาที่มีชื่อเสียง Kirchhofer ที่มีแบรนด์ดังกว่า 70 แบรนด์ เช่น PATEK PHILIPPE และ แบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ทั้งยังมี เครื่องประดับ, เครื่องหนัง และเครื่องสำอางอีกด้วย

    นำท่านสู่ เมืองบาเซิล (Bacel)(เดินทางประมาณ 1.50 ชม.) เมืองใหญ่อันดับสองของ ประเทศรองจากซูริค เป็นเมืองหลวงของรัฐบาเซิลชตัดท์ทางด้านเหนือของสวิส บริเวณเชื่อมต่อกับชายแดนฝรั่งเศสและเยอรมัน ทำให้เป็นศูนย์กลางการเดิน ทางเข้าออก 3 ประเทศนี้ไปโดยปริยาย ทั้งสนามบินนานาชาติสำหรับ 3 ประเทศบน แผ่นดินฝรั่งเศส สถานีรถไฟขนาดใหญ่ 2 แห่ง มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมืองแบ่งตัว เมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ Klein Basel (Little Basel) ฝั่งขวาและ Gross Basel (Great Basel) ฝั่งซ้าย แต่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวจะอยู่ในเขตเมืองเก่าริมแม่น้ำฝั่ง ซ้ายเสียเป็นส่วนใหญ่

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
    ที่พัก Novotel Basel City หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
    -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับ เทียบเท่ากัน

  • Day : 6
    เมืองบาเซิล - เมืองกอลมาร์ - ย่าน La Petite Venise - โบสถ์ Saint-Martin - เมืองสตราสบูร์ก - มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก - ย่าน Little France - รถไฟความเร็วสูง - กรุงปารีส

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    *เนื่องจากรถบัสต้องนำสำภาระใบใหญ่ของท่านสู่โรงแรมในกรุงปารีส โปรด เตรียมสำภาระบางส่วนในการท่องเที่ยวสำหรับวันนี้*
    เมืองกอลมาร์ (Colmar) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองกอลมาร์อยู่ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ใกล้กับประเทศเยอรมนี จึงทำให้ สถาปัตยกรรมคล้ายกับของเยอรมนี ได้ชื่อว่าเป็น “capitale des vins d’Alsace” (เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส) อีกด้วย

    นำท่านเดินสู่ ย่าน La Petite Venise หรือ Little Venice ของเมือง Colmar เป็นย่านที่โด่งดังที่สุดที่ทำให้เมือง Colmar ได้ถูกจัดอันดับให้เป็น ดินแดนแห่งความโรแมนติกที่คู่รักนิยมมาฮันนีมูน และนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ต่างก็หลงไหลในมนต์เสน่ห์ที่แสนน่ารักจนทำให้ย่านนี้ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว จากทั่วทุกมุมโลกที่มาเที่ยวชมอยู่อย่างสม่ำเสมอ

    ถ่ายรูปด้านหน้า โบสถ์ Saint-Martin โบสถ์สไตล์โกธิคที่มีสถาปัตยกรรมอัน งดงาม ประดับด้วยกระจกสีโบราณ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกแบบกอธิคที่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 โบสถ์แห่งนี้โดดเด่นด้วยหอคอยสูง 71 เมตร กระจกสีโบราณ และประติมากรรมอันวิจิตร สร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 12 บนพื้นที่ของโบสถ์โรมันโบราณ โบสถ์แห่งนี้ได้รับการบูรณะและขยาย เพิ่มเติมหลายครั้ง เป็นตัวอย่างอันงดงามของสถาปัตยกรรมแบบกอธิค เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองColmar

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) (เดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอัลซาร์ (Alsace) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แบ่งออกเป็นเขตเมืองเก่าและเขตเมือง เป็นเมืองที่เป็นหัวข้อ พิพาทระหว่างเยอรมันกับฝรั่งเศสมาหลายศตวรรษ บ้านเมืองจึงเป็นการผสมผสานของทั้งสองประเทศ

    เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาการท้องถิ่น

    เข้าชม มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก (Cathedrale Notre Dame de Strasbourg) เป็น มหาวิหารแห่งแรกของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นมาในรูปแบบสไตล์โกธิค (Gothic) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439 ที่สร้างด้วยหิน ทรายสีชมพู และถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศ ฝรั่งเศสในยุคนั้น เป็นวิหารที่มีความสูงที่สุดในยุโรปแถบตะวันตกโดยองค์กรยูเนสโก นำท่านชม ย่าน Little France ใน ภาษาอังกฤษ ย่านประวัติศาสตร์ของเมืองสตราสบูร์ก เป็นย่านที่มีแม่น้ำไหลออกหลายช่องทาง ล้อมรอบ ด้วยแม่น้ำอีล (River ill) ชาวบ้านสมัยก่อนนิยมทำการฟอกหนัง ทำให้น้ำเน่าเสียมีกลิ่นเหม็น หมู่บ้านแห่งนี้เต็ม ไปด้วยบ้านเรือนครึ่งไม้ โคลัมเบจ สีดำและขาว โครงสร้างเก่าแก่ที่แปลกตาเหล่านี้มาจากทศวรรษที่ 1500

    พาท่านสู่ สถานีรถไฟเมืองสตราสบูร์ก นั่งรถไฟความเร็วสูง สู่ กรุงปารีส

    (ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชม. ซึ่งหากเป็นรถบัสโดยสารจะใช้เวลาถึง 5 ชม.)

    เดินทางสู่ กรุงปารีส เมื่องหลวงสุดโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในจุดหมาย ปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนที่แม้กระทั่งชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่นอกเมืองหรือ ต่างจังหวัด หรือต่างแคว้นแดนไกล กล่าวว่าตราบใดที่มีลมหายใจ ก็ขอให้ได้เห็นมหานครปารีสสักครั้ง

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    ที่พัก Novotel Paris Est หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

    -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับ เทียบเท่ากัน

  • Day : 7
    เมืองปารีส - พระราชวังแวร์ซายส์ - จัตุรัสทรอกาเดโร - วิวหอไอเฟล - ล่องเรือแม่น้ำแซน

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    เข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles)(เดินทางประมาณ 1 ชม.) หนึ่งในพระราชวังที่มีคนพูดถึงมากที่สุด และยังเป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุค ปัจจุบันอีกด้วย แต่เดิมนั้นเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์บูร์บง ทรงโปรดพื้นที่บริเวณนี้มากเมื่อทรงขึ้นครองราชย์นจึงมีพระราชดำรัสให้สร้างพระราชวัง แห่งใหม่แทนพระราชวังลูฟท์ที่กรุงปารีสโดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระราชวังที่ สวยงามที่สุดในโลก

    เที่ยง บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาหารจีน
    ชมจุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยที่สุด ณ จัตุรัสทรอกาเดโร (เดินทางประมาณ 1 ชม.) แต่ เดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศอยู่หลายครั้ง แต่โด่งดัง ด้วยเพราะทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น วิวหอไอไฟล (EIFFEL) หอไอเฟล ตั้งตามชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน แสดงสินค้าโลก ในปี 1889

    นำท่านล่องเรือแม่น้ำแซนชมบรรยากาศรอบเมืองปารีส เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน เมืองที่ โรแมนติกที่สุดของโลกในอีกมุมหนึ่งโดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส ถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส

    ค่ำ บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารอาการท้องถิ่น
    พิเศษ !! เมนูท้องถิ่นของฝรั่งเศส เมนูหอยเอสคาโก้

    ที่พัก Novotel Paris Est หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

    -โรงแรมในรายการทัวร์เป็นโรงแรมที่นำเสนอ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรมระดับ เทียบเท่ากัน

  • Day : 8
    กรุงปารีส - พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ - ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ - ถนนช็องเซลีเซ - สนามบินปารีส ชาร์ลเดอโกลด์ ประเทศฝรั่งเศส - สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    ถ่ายรูปด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (LOUVRE MUSEUM) เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษา ผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก
    ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ GALERIES LAFAYETTE นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไป ด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลก ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีส

    เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาท่องเที่ยว และช้อปปิ้ง
    ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (ARC DE TRIOMPHE) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่ เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝัง ศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย อาร์กเดอทรียงฟ์
    ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี ว่า กันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นที่ตั้งของสินค้าแบรนด์ ระดับโลกมากมาย

    14.30 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินปารีส ชาร์ลเดอโกลด์ ประเทศฝรั่งเศส กลับสู่ กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน

    17.30 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน สายการบินคอนดอร์แอร์ไลน์ Condor Airlines (DE) เที่ยวบินที่ DE4214 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

    18.45 น. เดินทางถึง สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เพื่อรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง

    20.10 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน สายการบินคอนดอร์แอร์ไลน์ Condor Airlines (DE) เที่ยวบินที่ DE2362 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

  • Day : 9
    สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    12.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

Home (13)
จองผ่านไลน์

ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์

Pp 0431719391757

จันทร์ - ศุกร์

09.00 - 18.00 น.