เวลาทำการ

จันทร์ - ศุกร์ 09.00 -18.00 น.

เราช่วยคุณได้

Travel License : 11/06178

Beautiful Winter Switzerland

  • รหัสทัวร์ SEK122
  • ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
  • กำหนดการเดินทาง14 พ.ย. 68 - 06 ม.ค. 69
  • จำนวนวัน 8วัน 5คืน
  • ราคาเริ่มต้น 85,888 บาท/ท่าน
  • เดินทางโดย Emirates Logo.svg

วันเดินทางและราคา

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง พักเดี่ยว เด็กทารก จอยแลนด์ Group Size สถานะ
14 พ.ย. 68 - 21 พ.ย. 68 ฿ 85,888 - - ฿ 18,500 - - 25 จองเลย
03 ธ.ค. 68 - 10 ธ.ค. 68 ฿ 86,888 - - ฿ 18,500 - - 25 จองเลย
03 ธ.ค. 68 - 06 ม.ค. 69 ฿ 99,888 - - ฿ 18,500 - - 25 จองเลย

รายละเอียดโปรแกรม

  • Day : 1
    ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    22.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร

  • Day : 2
    ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง - ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ - เมืองลูเซิร์น - สิงโตหินแกะสลัก - สะพานไม้ชาเปล

    02.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย สายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK377
    06.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
    08.25 น. นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค เที่ยวบินที่ EK087
    12.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ระยะทาง 62กม. / 1 ชม.) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา นำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน

    เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่1)
    ที่พัก : Holiday Inn Express LuzernKriens หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
    (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนวันเดินทาง)

  • Day : 3
    สถานีกรินเดลวัลด์ - ขึ้นกระเช้าไอเกอร์ เอ็กเพรส สู่ สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ - ต่อรถไฟ สู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค - ปราสาทน้ำแข็ง - อัลไพน์ เซนเซชัน - สฟิงซ์ฮอลล์ - รถไฟไต่เขาลงจากยอดเขาจุงเฟรา - ลงกระเช้าไอเกอร์ เอ็กเพรส สู่ สถานีกรินเดลวัลด์ - เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน - น้ำตกชเตาบ์บาค - เมืองสเตเชลเบิร์ก - นั่งกระเช้า Schilthorn Bahn จากสถานีสเตเชลเบิร์กสู่สถานีมูร์เริน - หมู่บ้านมูร์เริน

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่2)
    นำท่านเดินทางไปสู่ สถานีกรินเดิลวาลด์ (Grindelwald Terminal) (ระยะทาง 85 กม./ 1.30 ชม.) นำท่านนั่งกระเช้าลอยฟ้าไอเกอร์เอ็กซเพรส (Eiger Express) สู่ สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletcher) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อให้ท่านเปลี่ยนขึ้นรถไฟจุงเฟรา เพื่อนำท่านสู่ยอดเขาจุงเฟรา (JUNGFRAUJOCH) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป ที่ความสูง 3,454 เมตร

    นำท่านเที่ยวชม ปราสาทน้ำแข็ง (Ice palace) ที่สร้างขึ้นจากกองน้ำแข็งที่ก่อตัวอยู่ใต้ระเบียงชมวิวลงไป 20 เมตร ภายในทางเดินเหมือนโพรงถ้ำเข้าไป ให้ท่าน

    ชมรูปสลักน้ำแข็งต่างๆ อุณหภูมิภายในถ้ำอยู่ที่ -3 องศา อัลไพน์ เซนเซชัน (Alpine Sensation Adventure Tunnel) คืออุโมงค์ แสดงเรื่องราวของการรถไฟจุงเฟราและการพัฒนาของการท่องเที่ยวในเขตเทือกเขาแอลป์ ผ่านจอภาพยนตร์ 360 องศา สฟิงซ์ฮอลล์ (Sphinx Observatory) จากนั้นนำท่านนั่งรถไฟไต่เขาลงจากยอดเขาจุงเฟรา โดยรถไฟ 2nd CLASS สู่สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletscher) เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express กลับสู่ สถานีกรินเดลวัลด์ (Grindelwald)

    เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่3)
    นำท่านนั่งรถไฟไต่เขาลงจากยอดเขาจุงเฟรา โดยรถไฟ 2nd CLASS สู่สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletscher) เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express กลับสู่ สถานีกรินเดลวัลด์ (Grindelwald) จากนั้นเดินทางสู่ เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) (ระยะทาง 17 กม. / 30 นาที) หมู่บ้านที่สวยเหมือนเทพนิยาย หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชันและยังมี น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach) ไหลลงมาจากหน้าผา ทำให้ทัศนียภาพของหมู่บ้านแห่งนี้สวยอลังการมากขึ้น แม้จะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านวิวสวยที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาต่อเนื่อง แต่เลาเทอร์บรุนเนินยังคงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจและเดินเล่นในหมู่บ้าน (หมายเหตุ: ในกรณีที่สภาพอากาศ ไม่เอื้ออำนวย หรือมีหิมะบดบังทัศนวิสัย ถนนลื่น ทำให้รถโค้ชไม่สามารถเข้าหมู่บ้านได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของคณะทัวร์)

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองจากสเตเชลเบิร์ก (Stechelberg) (ระยะทาง 6 กม. / 10 นาที) หมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา มีอากาศที่บริสุทธิ์ เพื่อเปิดประสบการณ์สุดอลังการบนเทือกเขาแอลป์ นั่งกระเช้า Schilthorn Bahn จากสถานีสเตเชลเบิร์ก (Stechelberg) สู่สถานีมูร์เริน (Mürren) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านมูร์เริน (Mürren) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของวิวทิวทัศน์เหมือนอยู่ในหมู่บ้านเทพนิยายท่ามกลางเทือกเขาแอลป์สุดประทับใจ อิสระเที่ยวชมเมืองถ่ายภาพบันทึกความทรงจำ

    เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่4)
    ที่พัก : Hotel Alpenruh หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
    (ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

    Highlight! โดยทําเลที่ดีเยี่ยมเปิดผ้าม่านมาเจอวิวหลักล้านที่โรงแรม Hotel Alpenruh ล้อมรอบไปตัวภูเขากลาเซียร์ ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบและน่าอิจฉาที่สุด!!

  • Day : 4
    นั่งกระเช้าจากสถานีมูร์เริน สู่สถานี เบิร์ก เพื่อต่อกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาชิลธอร์น - นั่งกระเช้า Schilthorn Bahn จากยอดเขาชิลธอร์น สู่สถานี เบิร์ก เพื่อต่อกระเช้าไปสู่สถานีมูร์เริน และนั่งกระเช้าต่อไปทีสถานีสเตเชลเบิร์ก - เมืองอินเตอร์ลาเคน - Kirchoffe

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)
    นำท่านนั่งกระเช้าจากสถานีมูร์เริน (Mürren) สู่สถานี เบิร์ก (Birg) เพื่อต่อกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาชิลธอร์น(Schilthorn) สวรรค์บนดินที่ควรไปสัมผัสสักครั้งกับยอดเขาที่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากทางยูเนสโก สัมผัสวิวตระการตากับเทือกเขาที่สลับซับซ้อนยิ่งใหญ่สวยงาม

    เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่6) ร้านอาหารบนยอดเขา พิซ กลอเรีย (Piz Gloria)

    จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้า Schilthorn Bahn จากยอดเขาชิลธอร์น(Schilthorn) สู่สถานี เบิร์ก (Birg) เพื่อต่อกระเช้าไปสู่สถานีมูร์เริน (Mürren) และนั่งกระเช้าต่อไปทีสถานีสเตเชลเบิร์ก (Stechelberg) ขึ้นชื่อว่าเป็นกระเช้าที่ชันที่สุดในโลก ที่อยู่บนยอดเขาสูงกว่า 2,970 เมตร จึงมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตราตรึงในใจและเป็นจุดหมายในฝันของใครหลายๆ คน และเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) (ระยะทาง 17 กม. / 30 นาที) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่สวยเหมือนในฝัน ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทูน Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ ล้อมรอบด้วยภูเขา ให้ท่านได้ช้อปปิ้งร้านนาฬิกาที่มีชื่อเสียง Kirchoffer ที่มีแบรนด์ดังกว่า 70 แบรนด์ เช่น PATEK PHILIPPE, CARTIER, CHANEL, BVLGARI, HERMES และแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ทั้งยังมี เครื่องประดับ, เครื่องหนัง และเครื่องสำอางอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปเลือกซื้อกันได้ตามอัธยาศัย

    เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่7) เมนูพิเศษ! สวิสฟองดูชีส

    ที่พัก: Hotel Central continental หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
    (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

  • Day : 5
    เมืองอินเตอร์ลาเคน - เมืองทาซ - นั่ง Shuttle Train จากทาซสู่หมู่บ้านเซอร์แมท - ชมวิวยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น - นั่ง Shuttle train สู่เมืองทาช - เมืองทาซ Optional tour!! นั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่8)
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) (ระยะทาง 290 กม. / 4.30 ชม.) จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt) ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟทาซสู่สถานีรถไฟเซอร์แมท (ราคาทัวร์รวมค่าโดยสารสำหรับการเดินทางสู่เซอร์แมทแล้ว) ให้ท่านเดินเที่ยวชมหมู่บ้านเซอร์แมทที่มีบรรยากาศสบายๆ ล้อมด้วยเขาสูงสวยงาม เป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น จากเมืองด้านล่างนี้ถ้าสภาพอากาศดีท่านจะสามารถมองเห็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส เป็นสามเหลี่ยมคล้ายปิรามิดที่จุดสูงสุดบนยอด และมีความโดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เคยเป็นโลโก้ของช็อคโกแล็ตดังทับเบอร์โรน ให้เวลาท่านอิสระเลือกเดินชมบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านเซอร์แมทตามอัธยาศัย

    เลือกซื้อ Optional tour!! นั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถไฟไต่เขา ขึ้นสู่ยอดเขากอร์นเนอร์แกรต (Gornergrat) เพื่อชมความสวยงามของยอดเขา Matterhorn โดยรถไฟเริ่มปีนไต่ระดับขึ้น ระหว่างทางมีไฮไลท์ของธรรมชาติพร้อมวิวของ Matterhorn ซึ่งส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี (ค่านั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn ไม่รวมในค่าทัวร์)

    เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่9)
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟเซอร์แมท สู่ สถานีรถไฟทาซ

    เย็น อิสระอาหาร เย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
    ที่พัก: Hotel Mountime หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
    (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

  • Day : 6
    เมืองทาซ - เมืองเวเว่ย์ - รูปปั้นชาร์ลี แชปลิน - ส้อมยักษ์ - เมืองโลซาน - ศาลาไทย - เมืองซุก - Lohri AG Store - เมืองซูริค

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่10)

    เดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) (ระยะทาง 150 กม./ 2.30 ชม.) เมืองที่แสนโรแมนติก ถูกขนานนามให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส Pearls of the Swiss Riviera ถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์ของเมือง รูปปั้น “ชาร์ลี แชปลิน” (Chaplin Statue) ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิตและสัญลักษณ์ที่สำคัญ The Fork ส้อมขนาดใหญ่ทำจากสแตนเลส ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลสาบเจนีวาจากนั้นนำท่านสู่ เมืองโลซาน (Lausanne)  (ระยะทาง 19 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของโอลิมปิคโลกและยังเคยเป็นเมืองที่ในหลวง รัชการที่ 9 เคยประทับและทรงเล่าเรียนในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์

    เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่11)
    ถ่ายรูปกับ ศาลาไทย (Le Pavillon Thaïlandais) สร้างโดยวิศวกรโยธา ช่างฝีมือและคนงาน 50 คน ร่วมกันสร้างชิ้นส่วนทุกชิ้นจากโรงงานในเมืองไทย รวมทั้งการทำฐานและบันไดด้วยหินแกรนิต ใช้ระยะเวลาประมาณสามเดือนจึงเสร็จสิ้น ขนส่งทางเรือจากประเทศไทยมายังสวิตเซอร์แลนด์  เดินทางสู่ เมืองซุก (ZUG) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ระยะทาง 240 กม. / 3.30 ชม.) เป็นเมื่องที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และยังเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกเมืองที่สะอาดที่สุด หากพอมีเวลาแนะนำ ให้ท่าน ร้านคาเฟ่ Confiserie Cafe Speck น่ารัก อาหารอร่อย เบเกอรี่หอมหวาน ช็อคโกแลต กาแฟหรือเค้ก (วันเวลาการการเปิด-ปิดของร้าน ไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าทุกกรณี) รวมไปถึงเดินเล่นชิลๆ ชม โบสถ์ นักบุญออสวอลด์ (St.Oswald) ที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานแถมเป็นโบสถ์ประจำเมืองซุกอีกด้วย อิสระช้อปปิ้งที่ Lohri AG Store ทีมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier, Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC, Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ

    เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่12)
    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ระยะทาง 35 กม./ 1 ชม.) เป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสะท้อนถึงความสะอาด ปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร การบริการสาธารณะที่ดีเยี่ยม และสภาพแวดล้อมที่สวยงามและมีเสน่ห์
    ที่พัก: Dormero Hotel Zürich หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
    (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

  • Day : 7
    เมืองซูริค - เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน - ชมน้ำตกไรน์ - เมืองซูริค - โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ - โบสถ์ Grossmünster - โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ - ช้อปปิ้งถนนบานโฮฟซตราเซอร์ - ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค

    เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่13)
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ระยะทาง 47 กม. / 1 ชม.) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในวงล้อมของประเทศเยอรมนีทั้ง 3 ทิศทาง โดยมี น้ำตกไรน์ (Rheinfall) ไหลผ่านเมือง ให้ท่านชมความงามของ น้ำตกไรน์เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนแม่น้ำไรน์บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐชาฟเฮาเซินกับรัฐซูริค น้ำตกแห่งนี้มีความกว้าง 150 เมตรและสูง 23 เมตร ให้ท่านอิสระถ่ายภาพเก็บความประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกไรน์

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ระยะทาง 47 กม./ 1 ชม.) เมืองที่สวยงามเงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตร และเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คน

    เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่14)
    นำท่านแวะถ่ายภาพด้านหน้า โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumünster) ที่เลื่องชื่อเรื่องความงดงามของกระจกสี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิค กับยอดปลายแหลมสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และอีกฟากเป็น โบสถ์ Grossmünster ออกแบบมาในรูปแบบประตูแกะสลักในศิลปะยุคกลาง อิฐหินถูกใช้ในการก่อสร้างตัวโบสถ์ ยังมีการตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกที่มีสีสันทันสมัยโดยจิตรกรชาวสวิส โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Church) ไฮไลท์ที่สำคัญคือมีหอนาฬิกาขนาดใหญ่โดยหน้าปัดของหอนาฬิกามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.7 เมตร ขึ้นชื่อว่าเป็นหอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป อิสระเดินเล่น ถนนบานโฮฟซตราเซอร์

    (Bahnhofstrasse) ถนนการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรือง ตลอดสองข้างทางของถนน เรียงรายด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย จนได้ชื่อว่า “ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”

    Highlight! หากมีเวลาแนะนำให้ท่านเดินเที่ยวชมตลาดคริสต์มาส ที่ Bahnhofstrasse บรรยากาศสุดโรแมนติก มีการตกแต่งที่อบอุ่น ยามฟ้ามมืดจะพบกับแสงไฟสวยงาม รวมไปถึงมีกลิ่นหอมของขนมหวาน ของน่ารักพวกงานฝีมือและไวน์ร้อนคลายความหนาวเพิ่มความอบอุ่น

    เย็น อิสระอาหาร เย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
    ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย
    21.50 น. เดินทางกลับ ประเทศไทย โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK086

  • Day : 8
    ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับอามิเรตส์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง - ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    07.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
    08.55 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK370
    18.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

Home (13)
จองผ่านไลน์

ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์

Pp 0431719391757

จันทร์ - ศุกร์

09.00 - 18.00 น.