หน้าแรก / ทัวร์ทั้งหมด / สวิสติดโปร Italy Switzerland
22.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร
02.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK377
06.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
08.25 น. นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เที่ยวบินที่ EK087
12.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ระยะทาง 68 ก.ม. / 1 ชม.) ชื่นชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน
นำท่านดินทางสู่ เมืองโลซาน (Lausanne) (ระยะทาง 216 กม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงของโอลิมปิคโลกและยังเคยเป็นเมืองที่ในหลวง รัชการที่ 9 เคยประทับและทรงเล่าเรียนในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระ
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่1)
ที่พัก : Zleep Hotel Lausanne-Chavannes หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนวันเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่2)
ถ่ายรูปกับ ศาลาไทย (Pavillon Thaïlandais) ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) (ระยะทาง 20 กม./ 30 นาที) เมืองที่แสนโรแมนติก ถูกขนานนามให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส Pearls of the Swiss Riviera แวะถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์ของเมืองรูปปั้น “ชาร์ลี แชปลิน” (Chaplin Statue) ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิต และ The Fork หรือ ส้อมยักษ์ เป็นอีกแลนด์มาร์คสุดแปลกตาที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) (ระยะทาง 150 กม. / 2.30 ชม.) จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt) ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟทาซสู่สถานีรถไฟเซอร์แมท (ราคาทัวร์รวมค่าโดยสารสำหรับการเดินทางสู่เซอร์แมทแล้ว) ให้ท่านเดินเที่ยวชมหมู่บ้านเซอร์แมทที่มีบรรยากาศสบายๆ ล้อมด้วยเขาสูงสวยงาม เป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น จากเมืองด้านล่างนี้ถ้าสภาพอากาศดีท่านจะสามารถมองเห็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น(Zermatt) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส เป็นสามเหลี่ยมคล้ายปิรามิดที่จุดสูงสุดบนยอด และมีความโดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เคยเป็นโลโก้ของช็อคโกแล็ตดังทับเบอร์โรน ให้เวลาท่านอิสระเลือกเดินชมบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านเซอร์แมทตาม
อัธยาศัย (กรณีการตกของหิมะ ตกไวหรือตกช้า และ ปริมาณหิมะมากหรือปริมาณน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)
เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
เลือกซื้อ Optional tour!! นั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถไฟไต่เขา ขึ้นสู่ยอดเขากอร์นเนอร์แกรต (Gornergrat) เพื่อชมความสวยงามของยอดเขา Matterhorn โดยรถไฟเริ่มปีนไต่ระดับขึ้น ระหว่างทางมีไฮไลท์ของธรรมชาติพร้อมวิวของ Matterhorn ซึ่งส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี (ค่านั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn ไม่รวมในค่าทัวร์)
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก : Hotel Derby หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟเซอร์แมท สู่ สถานีรถไฟทาซ และเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) (ระยะทาง 360 กม. / 5 ชม.) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า มิลาโน่ (Milano) เป็นเมืองหลวงทางแฟชั่นของโลก แข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของอิตาลี สมผสานความทันสมัยเข้ากับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างลงตัว
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4)
นำท่านถ่ายรูปด้านนอก มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน (Duomo di Milano) มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก ใช้เวลาสร้างเสร็จกว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าและพื้นที่ใกล้เคียงจะมี ห้างกัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซคอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน มีลักษณะเป็นทางเดินและอาคารขนาบ 4 ชั้น คลุมด้วยหลังคาทรงโค้ง หรูหราสวยงาม มีร้านค้าแบรนดัง ร้านอาหาร และคาเฟ่เก่าแก่
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก: UNA Hotels Expo Fiera Milano หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้(Tronchetto) (ระยะทาง 270 กม. / 4 ชม.) และนั่งเรือ (Private) จากท่าเรือตรอนเคตโต้สู่ เกาะเวนิส (Venice Island) (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือแบบ Private ไป-กลับ) ดินแดนแสนโรแมนติก และอบอุ่น เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic) เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพานและเมืองแห่งแสงสว่าง ความสวยงามของบ้านเรือนและ ธรรมชาติอันงดงามที่หาไม่ได้จากที่ไหน อีกทั้งวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คน ที่สัญจรด้วยการเดินเรือและการเดินเท้า เสมือนเมืองที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าล่องเรือ Gondola)
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่6) เมนูพิเศษ!! สปาเก็ตตี้หมึกดำ
Highlight! เมื่อเยือนเกาะเวนิส เมนูที่ขึ้นชื่อและหากได้มาต้องได้ลิ้มลอง สปาเก็ตตี้ผัดซอสหมึกดำที่คลุกเคล้ากับความหอมนุ่มนัวกับบรรยากาศ
นำท่านชมความสวยงามของ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco หรือ Saint Mark Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิส ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม อาทิ สะพานรีอัลโต (Ponte di Rialto) เป็นหนึ่งในสะพานข้ามแกรนด์คาแนล ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด เพราะสะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 เลยทีเดียว ต่อมาได้มีการรื้อและสร้างใหม่ด้วยหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากสะพานรีอัลโตจะเชื่อมระหว่างเกาะ San macro กับเกาะ San polo ของเวนิสด้วย บริเวณปลายสะพานทั้งสองฝั่งยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าขายของต่างๆ อีกมากมาย จากนั้นพาท่านชม มหาวิหารเซนต์มาร์ก (St Mark’s Basilica) เป็นมหาวิหารที่ได้รับสมญานามว่า Chiesa d’oro หรือโบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 เป็นตัวอย่างอันสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ซึ่งตั้งอยู่บนจัตุรัสซันมาร์โกกลางเมืองเวนิส โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกระดับมหาวิหารประจะเขตอัครบิดรเวนิสในประเทศอิตาลี
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเดินทางสู่เดินทางสู่ เมืองเวโรนา (VERONA) (ระยะทาง 122 กม. / 2.30 ชม.) เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก ชื่นชมตำนานความรักชื่อดังอย่าง บ้านของจูเลียต (CASA DI GIULIETTA หรือ Juliette House) สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและความรักอันเป็นอมตะจากเรื่องราวของโรมิโอและจูเลียต บ้านเลขที่ 27 ถนน VIA CAPPELLO CASA DI GIULIETTA บ้านหลังนี้เคยเป็นของตระกูล CAPPELLO เป็นความบังเอิญที่ชื่อตระกูลคล้ายกับตระกูล CAPULET ของจูเลียต วิลเลียม เชกสเปียร์ กวีเอกของโลก บริเวณกำแพงของบ้านเต็มไปด้วยข้อความบอกรัก และคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรักเขียนทับกันไปมาจนแทบไม่เห็นพื้นผิวกำแพงเดิม (ค่าทัวร์รวมค่าเข้าชม) ช้อปปิ้งถนน Via Giuseppe Mazzini ถนนที่มีชื่อเสียงหลักๆ เป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปที่ต้องการสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมและสินค้าหรูหรา รวมไปถึงมีร้านค้าเล็กๆ ที่ขายสินค้าทั่วไป หรือบูติกบางแห่ง และยังมีร้านอาหารและคาเฟ่คอยให้บริการ
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก : Best Western Plus Hotel Expo หรือโรงแรมและเมืองระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนวันเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่7)
นำท่านถ่ายรูปด้านนอก โรมัน อารีน่า (VERONA ARENA) โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน ลักษณะเหมือนโคลอสเซียมที่กรุงโรมแต่ขนาดเล็กกว่า เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะโรมันโบราณอายุกว่า 2,000 ปี สามารถจุคนได้กว่า 15,000 คน ปัจจุบันยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต โอเปร่า
อิสระช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง Outlet Serravalle (ระยะทาง 242 กม. / 3.30 ชม.) รวมรวมร้านค้าแบรนด์กว่า 230 ร้าน Gucci, Versace, Dolce & Gabbana, Armani, Prada, Nike, Adidas, The North Face และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าแล้ว ยังมีสินค้าตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์ความงาม และอื่นๆ อีกด้วย
เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี (ระยะทาง 134 กม. / 2 ชม.) เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
21.35 น. เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK092
เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK092
06.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK372
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ