เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทางทีมงานบริษัท เอ็กซ์คลูซีฟ เจอร์นีย์ จำกัด ขอพระราชทานอนุญาตรวบรวม อเนกอนันต์พระราชกรณียกิจ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ นานัปการเพื่อขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนชาวไทย เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยพระวิริยอุตสาหะ และน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทุกท้องถิ่น มีคุณภาพชีวิตที่ดี พระราชกรณียกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการศึกษา ศาสนา สังคมสงเคราะห์ การแพทย์และสาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรม การอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และความมั่นคง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชดำริตลอดจนพระราชทรัพย์เพื่อช่วยแก้ปัญหา ของราษฎรตลอดมา ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ติดตาม ความก้าวหน้าของแต่ละงานหรือโครงการจนบรรลุผล สำเร็จด้วยดี
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน
สถาบันสิริกิติ์

พุทธศักราช ๒๕๒๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงฝึกศิลปาชีพขึ้นที่สวนจิตรลดาเพื่อใช้เป็นที่ฝึกหัดเล่าเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ที่นับวันจะสูญหาย โดยเฉพาะงานที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ ทรงคัดเลือกและพระราชทานโอกาสให้บุตรหลานชาวนาชาวไร่ที่ยากจนมาฝึกอบรมเพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้และสืบสานงานศิลปะชั้นสูงของไทย และทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่าผลงานเหล่านี้จะเป็นสมบัติของแผ่นดิน มีพระราชกระแสรับสั่งว่าศิลปะถือเป็นตัวตนความเป็นไทย เป็นตัวตนของเรา เรามีศิลปะ มีวัฒนธรรม มีภาษาพูด อันนี้คือสิ่งสำคัญที่สุดของแผ่นดิน ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราก็ไม่เป็นเรา เราก็ไม่ใช่ประเทศไทย สิ่งเหล่านี้สำคัญมาก หากสูญหายจะไม่มีผู้ใดได้รู้ได้สืบทอด งานช่างประเภทใดที่กำลังจะสูญหายไปก็โปรดเกล้าฯ ให้อนุรักษ์ไว้ เช่น งานถมทองของภาคใต้ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นงานที่ต้องทำด้วยมือต้องใช้ทองคำแท้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และทองคำมีราคาแพง ราษฎรไม่สามารถทำได้ หรืองานคร่ำต้องเป็นงานที่ต้องทำด้วยมือ มีขั้นตอนที่ซับซ้อนใช้เวลานานไม่มีใครอยากทำจึงทรงนำลูกหลานชาวนาชาวไร่มาอนุรักษ์งานช่างศิลป์ไทย เพราะทรงเชื่อมั่นว่าในสายเลือดคนไทยทุกคน มีความเป็นช่าง และมีศิลปะอยู่ในตัวเอง
“ข้าพเจ้านั้นภูมิใจเสมอมาว่า คนไทยมีสายเลือดของช่างฝีมือทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ชาวนา หรือมีอาชีพใดอยู่สารทิศใด คนไทยมีความละเอียดอ่อน และฉับไวต่อการรับศิลปะทุกชนิด ขอเพียงแต่เค้ามีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝน เขาก็จะแสดงความสามารถออกมาให้เห็นได้”
พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้า ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒
โรงฝึกศิลปาชีพ
เริ่มจากเต็นท์เล็กๆ ข้างกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในสวนจิตรลดา ทรงรับบุตรหลานชาวไร่ชาวนาเข้ามาฝึกศิลปาชีพเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ต้องขยายเป็นโรงฝึกศิลปาชีพ เปิดสอน 23 แผนก ได้แก่แผนกเครื่องเงิน – เครื่องทอง แผนกถมทอง แผนกคร่ำ แผนกลงยาสี แผนกทอผ้าไหม (ทอผ้าไหมพื้นทอผ้าหางกระรอก ทอผ้าเกร็ดเต่า ทอผ้าลายลูกแก้ว ทอผ้าลายผ้าขาวม้า และทอผ้ามัดหมี่) แผนกทอจกและผ้าแพรวา แผนกแกะสลักไม้ แผนกแกะสลักหินสบู่ แผนกแกะสลักหนังตะลุง แผนกจักสานย่านลิเภา แผนกจักรสานไม้ไผ่ลายขิด แผนกช่างไม้ และช่างหวาย แผนกปั้น แผนกแกะสลักตุ๊กตาไม้โมกมัน แผนกเขียนลาย แผนกตกแต่งด้วยปีกแมลงทับ แผนกปักผ้า แผนกดอกไม้ประดิษฐ์ แผนกตัดเย็บ และแผนกบรรจุภัณฑ์

นับจากนั้นสืบเนื่องมาเป็นเวลา 40 ปี โรงฝึกศิลปาชีพ สวนจิตรลดา เป็นแหล่งสร้างสรรค์บุคลากรและผลงานประณีตศิลป์ชั้นสูง เป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนและได้พัฒนาช่างสถาบันสิริกิติ์สู่ระดับช่างหลวงแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทั้งยังยึดมั่นในพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่จะทำหน้าที่เป็นศูย์กลางงานศิลปะไทยเพื่อช่วยสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ราษฎรควบคู่ไปกับการธำรงรักษามรดกศิลป์ของไทย พุทธศักราช ๒๕๕๓ โรงฝึกศิลปาชีพ สวนจิตรลดา ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น “สถาบันสิริกิติ์” ด้วยศักยภาพของหน่วยงานที่สร้างสรรค์ผลงาน ก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างยิ่งในหลายมิติ และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘0 พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ สถาบันสิริกิติ์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางงานช่างศิลป์

สร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ราษฎรควบคู่ไปกับการธำรงรักษามรดกศิลป์ไทย ดังปรากฎผลงานของสถาบันสิริกิติ์แก่สายตาประชาชนชาวไทยและชาวโลกมาอย่างต่อเนื่อง บ่งบอกเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ผลงานดังกล่าวได้นำไปจัดแสดงใน “นิทรรศการศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ ๑-๗” ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม โดยนิทรรศการศิลป์แผ่นดินครั้งที่๑ จัดขึ้นในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕ และได้จัดนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลังได้นำผลงานทที่เป็นชิ้นสำคัญ ซึ่งเกิดจากฝีมือช่างของสถาบันสิริกิติ์ที่สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาฝีมือเทียบเท่าระดับช่างฝีมือขั้นนำมาจัดแสดง