ถ้าพูดถึง “ญี่ปุ่น” หลายคนอาจนึกถึงซูชิหรือซามูไร และรถไฟชินคันเซ็นที่วิ่งฉิวประหนึ่งนินจาในคราบเหล็ก แต่ถ้าเดินทางไปในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) รับรองว่าภาพจำจะเปลี่ยนไปเป็น พรมสีแดง – ส้ม – เหลืองที่ปกคลุมทั่วทั้งประเทศ 🌿🍂
ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงความงดงามทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนเอาไว้อย่างแนบแน่น ไม่ว่าจะเป็นปราสาทอันเก่าแก่ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ หรือเส้นทางโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถนนของเหล่านักรบอีกด้วย ครั้งนี้ เราจะพาคุณออกเดินทางไปตาม “เส้นทางใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น” ที่ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปสวย แต่ยังเล่าเรื่องราวความหลังที่ทำให้การเดินเล่นท่ามกลางใบไม้แดง มีรสมีชาติยิ่งกว่าซาชิมิสดๆเลยทีเดียว!
🌸 เกียวโต – ร่องรอยเมืองหลวงเก่าและใบไม้แดงที่ห่มวัดโบราณ

• วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizudera) – หนึ่งในมรดกโลกยูเนสโก สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 778 ตัวระเบียงไม้สูงเสียดฟ้ากลายเป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยสุดใจ จนชาวญี่ปุ่นมีคำพูดติดปากว่า “กระโดดจากระเบียงคิโยะมิซุ” หมายถึงการตัดสินใจครั้งใหญ่ (แต่ไม่ต้องลองจริงๆ นะครับ 😅)
• อาราชิยามะ (Arashiyama) – ป่าไผ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่ในฤดูใบไม้ร่วง แม่น้ำโฮสึและสะพานโทเก็ตสึเคียวจะถูกโอบล้อมด้วยภูเขาแดงฉาน ราวกับฉากละครประวัติศาสตร์ของโชกุน
อีกทั้งยังเปป็นสถานที่ที่เหมาะกับการเดินเล่นในเกียวโตเป็นอย่างมาก เมืองหลวงเก่าที่วัดโบราณและศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ถูกแต้มด้วยใบไม้แดง ราวกับก้าวเข้าสู่ภาพเขียนญี่ปุ่นโบราณ
👉 เกร็ดน่ารู้: ช่วงสมัยเฮอัน ขุนนางญี่ปุ่นนิยมแต่งกลอนชมธรรมชาติ (วากะ) เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง จึงมีบทกวีจำนวนมากที่กล่าวถึง “โมมิจิ” (momiji = ใบเมเปิ้ลแดง) และยังคงสืบต่อจนปัจจุบัน
🏯 นารา – กวางศักดิ์สิทธิ์และความรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนา

นารา (Nara) คือเมืองหลวงเก่าก่อนของเกียวโต เป็นแหล่งรวมศิลปะและศาสนาแบบญี่ปุ่นโบราณที่ผสมผสานอารยธรรมจีน–เกาหลีเข้ามา
• สวนสาธารณะนารา (Nara Park) – ไฮไลท์ไม่ใช่แค่ใบไม้แดง แต่เป็นกวางกว่า 1,000 ตัวที่เดินเล่นท่ามกลางสีสันฤดูใบไม้ร่วง ราวกับเป็น “ผู้พิทักษ์ประวัติศาสตร์” (หรือบางตัวก็อาจเป็น “ผู้พิทักษ์ขนมเซ็มเบ้” ของนักท่องเที่ยว 😂)
• วัดโทไดจิ (Todaiji) – วิหารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นปี ค.ศ. 752 ภายในประดิษฐานพระใหญ่ (ไดบุทสึ) ที่มีความสูงกว่า 15 เมตร ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีรอบๆ วัดทำให้บรรยากาศยิ่งศักดิ์สิทธิ์
👉 เกร็ดน่ารู้: สมัยนารา พระพุทธศาสนาเฟื่องฟูมากจนถูกมองว่ามีอิทธิพลเกินไป จักรพรรดิจึงย้ายเมืองหลวงไปเกียวโต เพื่อ “เบรก” พลังทางศาสนา (ฟังแล้วเหมือนการเมืองสมัยใหม่ยังไงไม่รู้…)
⛩️ นิกโก – มรดกโลกกลางขุนเขา

นิกโก (Nikko) จังหวัดโทจิกิ คือที่ตั้งของศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ซึ่งอุทิศแด่โชกุนโตกุกาวะ อิเอยาสุ ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนโตกุกาวะ (สมัยเอโดะ)
• ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) – สถาปัตยกรรมหรูหราที่เต็มไปด้วยลวดลายแกะสลัก รวมถึงภาพสลัก “ไม่ดู ไม่พูด ไม่ฟัง” (ลิงสามตัว) อันโด่งดัง เมื่อมาบวกกับใบไม้แดงรอบศาลเจ้าแล้ว ราวกับตำนานญี่ปุ่นกำลังถูกเล่าใหม่อีกครั้ง
• น้ำตกเคงงน (Kegon Falls) – หนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น (97 เมตร) ตกลงมาท่ามกลางหุบเขาใบไม้เปลี่ยนสี เห็นแล้วอยากตะโกน “ซามูไร๊ยยย” แบบหนังญี่ปุ่นสักเรื่อง
👉 เกร็ดน่ารู้: อิเอยาสุเป็นบุคคลสำคัญที่รวมญี่ปุ่นให้สงบหลังสงครามยาวนานกว่า 100 ปี ใบไม้แดงรอบศาลเจ้าจึงเหมือนเป็น “ผืนผ้าห่มแห่งสันติภาพ”
🚂 เส้นทางสายโทโฮขุ – ใบไม้แดงบนรางรถไฟ

โทโฮขุ (Tohoku) คือภูมิภาคเหนือของเกาะฮอนชู ที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอลังการ และเป็นเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสีที่ชวนให้ถ่ายรูปลง IG แบบไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์เลย
• ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) – ทะเลสาบภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุเมื่อ 200,000 ปีก่อน รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยป่าเมเปิ้ลที่เปลี่ยนสีสันทุกฤดูใบไม้ร่วง
• หุบเขาโออิราเสะ (Oirase Gorge) – ลำธารยาว 14 กิโลเมตรที่มีน้ำตกเล็กใหญ่กว่า 10 แห่ง สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หุบเขาแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นทางลับหลบหนี ปัจจุบันกลายเป็น “เส้นทางธรรมชาติ” ที่ชาวญี่ปุ่นเลิฟสุดๆ
• รถไฟสายริคุอุอีสต์ (Rikuu East Line) – การนั่งรถไฟชมใบไม้แดงจากหน้าต่าง ถือเป็นประสบการณ์สุดโรแมนติก (ยกเว้นถ้าเผลอเงียบหลับยาวไป 3 สถานี 😅)
🗼 โตเกียว – ความทันสมัยที่ห่มคลุมด้วยสีร่วง

แม้จะเป็นมหานครไฟนีออน แต่โตเกียวก็มีมุมโรแมนติกของใบไม้เปลี่ยนสีเช่นกัน
• สวนโชวะคิเนน (Showa Kinen Park) – เดินชมต้นแปะก๊วยสีทองทอดยาวเป็นอุโมงค์ยาวกว่า 300 เมตร เหมือนเดินเข้าสู่โลกแห่งภาพยนตร์
• สวนริคุกิเอน (Rikugien Garden) – สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม สร้างสมัยโชกุนโตกุกาวะ โยริสึงุ (ค.ศ. 1702) ไฮไลท์คือการเปิดไฟประดับยามค่ำที่สะท้อนกับบ่อน้ำกลางสวน
👉 เกร็ดน่ารู้: สมัยเอโดะ ชาวเมืองนิยม “โมมิจิ-การิ” (Momijigari = การล่าใบไม้แดง) เป็นกิจกรรมยอดฮิต คล้ายๆ กับการไปเที่ยวทะเลในสมัยนี้เลยค่ะ
การเดินทางตามรอยใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่การถ่ายรูปกับธรรมชาติ แต่คือการได้สัมผัสประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนที่ผูกพันกับฤดูกาลนี้มานานนับพันปี ทุกวัด ศาลเจ้า หรือเส้นทางล้วนมีเรื่องเล่าที่ทำให้การเดินเล่นท่ามกลางใบไม้แดงเต็มไปด้วยมิติใหม่ๆ
✨ แล้วคุณล่ะ?
อยากไปนั่งรถไฟชมใบไม้ที่โทโฮขุ เดินเล่นกับกวางที่นารา หรือหลงเสน่ห์เกียวโตท่ามกลางใบไม้แดงก่อน?
ลองแชร์สถานที่ในฝันของคุณกับเรา แล้วแท็กเพื่อนที่อยากไปด้วยกันนะคะ 🍁✈️
สนใจจัดทัวร์กรุ๊ปเหมา หรือคณะดูงาน แบบมืออาชีพ ติดต่อเราได้ที่นี่ LINE OA : @tours2world https://lin.ee/ktnGCCsw
Product อื่นๆที่น่าสนใจอีกเพียบ ลองเข้าไปดูที่นี่สิ https://www.ej.co.th
อ่านบทความอื่นๆ คลิ๊กที่นี่เลยครับ https://www.ej.co.th/blog/