ใครชอบอากาศสดชื่น วิวอลังการ และการท้าทายตัวเอง มีข่าวดีมาบอก: โลกนี้ยังเต็มไปด้วย ภูเขาสุดตะลึงและเส้นทางปีนเขาที่ห้ามพลาด 🏔️
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเบาๆ ที่อยากเดินเล่นบนเส้นทาง scenic หรือสายโหดที่อยากไต่หน้าผาและเจอ adrenaline แบบเต็มพิกัด เรามีสถถานที่มาให้ครบถ้วนเลยค่ะ!
1. เอเวอเรสต์ (Mount Everest) – เนปาล / จีน

พูดถึงปีนเขาอันดับ 1 ของโลก ใครไม่รู้จัก เอเวอเรสต์ ถือว่าแปลก เพราะที่นี่ชื่อดังมากๆ 😅 สูงถึง 8,848 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล การขึ้นยอดเขานี้ไม่ใช่แค่เรื่องกำลังใจ แต่ต้องใช้ ร่างกาย ความอดทน และการเตรียมตัวอย่างจริงจัง
หลายคนที่ขึ้นเอเวอเรสต์เรียก base camp ว่า “โลกเล็ก ๆ” เพราะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก และร้านกาแฟซุปเปอร์ชิคที่น่านั่งที่สุด… จริงๆ นะ! 🏔️☕
2. มาทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) – สวิตเซอร์แลนด์

ภูเขารูปพีระมิดสุด iconic ในเทือกเขาแอลป์ ที่นักปีนเขาหลายคนใฝ่ฝันจะขึ้นไปชมวิว 🏞️ เส้นทางปีนเขานี้ท้าทาย แต่บอกเลยว่าทิวทัศน์จากยอดเขา เหมือนภาพโปสการ์ดที่มีชีวิต
Matterhorn เคยเป็นภูเขาที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีนักปีนเขาเสียชีวิตหลายสิบคนในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยที่ดีขึ้น
3. โคโรราโดร็อกกี้เมาน์เทนส์ (Rocky Mountains) – สหรัฐอเมริกา

ถ้าชอบ hiking ผสมกับวิวป่า pine และทะเลสาบใส ๆ Rocky Mountains คือสวรรค์ของคุณ 🌲🏞️ มีเส้นทางปีนเขาหลากหลายตั้งแต่ระดับง่าย ๆ จนถึงสุดโหดสำหรับผู้เชี่ยวชาญ
อย่าลืมกล้อง! เพราะวิว sunrise และ sunset ที่นี่คือ masterpiece ของธรรมชาติ
4. ฟูจิซัง (Mount Fuji) – ญี่ปุ่น

สัญลักษณ์ของญี่ปุ่นและภูเขาที่ขึ้นชื่อในโลก 🌸 สูง 3,776 เมตร และมีเส้นทางปีนเขาหลากหลาย (Yoshida Trail เป็นที่นิยมมาก)
การปีนฟูจิซังมีความหมายเชิงศาสนาและพิธีกรรมโบราณ มีนักปีนเขาที่ขึ้นเพื่อบูชาและทำสมาธิ ยิ่งช่วงฤดูร้อน จะเห็นฝูงนักปีนเขาเหมือน “ขบวนแห่สีสัน” ขึ้นไปยอดเขา
5. แองเคิลส์แลนด์ (Table Mountain) – แอฟริกาใต้

ใครอยากชมวิวเมืองเคปทาวน์แบบพาโนราม่า Table Mountain คือคำตอบ 🏞️ มีหลายเส้นทางปีนเขา ตั้งแต่ทางง่าย ๆ จนถึงเส้นทางชัน ท้าให้คุณเหงื่อแตกแต่ฟินสุด ๆ
บางเส้นทางคุณอาจเจอเจ้าลิงบาบูนซน ๆ แวะมาทักทาย เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
6. ตรังไซฮา (Torres del Paine) – ชิลี

ภูเขาใน Patagonia แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่อง หน้าผาสีแดงตัดกับน้ำทะเลสาบสีฟ้าเข้ม 🌊🗻 เป็นหนึ่งในเส้นทาง trekking ที่สวยที่สุดในโลก เส้นทางปีนเขาหนักหน่อย แต่สวยจนลืมหายใจ
เส้นทางนี้มักถูกเรียกว่า W Trek หรือ O Trek ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากเดินกี่วัน เส้นทางแบบ O Trek จะใช้เวลาประมาณ 7–10 วัน
7. ออสเตรเลีย – บลูเมาน์เทนส์ (Blue Mountains)

ใครคิดว่าออสเตรเลียมีแต่ทะเลทราย ต้องเปลี่ยนความคิด 🌳 Blue Mountains มีเส้นทาง hiking และปีนเขาที่เข้าถึงง่าย วิวเป็นหุบเขา ล้อมรอบด้วยหน้าผาหินทรายสีทองและน้ำตก
ชื่อ Blue Mountains มาจากไอระเหยของน้ำมันยูคาลิปตัสที่ทำให้ภูเขาดูเป็นสีฟ้าในระยะไกล
8. ไอร์แลนด์ – โครมเวิล์ฟส์ (Croagh Patrick)

สำหรับสายปีนเขาแบบ light trekking Croagh Patrick เป็นภูเขาที่มีความสูงไม่มาก แต่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม นักปีนเขาจะขึ้นไปสักการะและชมวิวทะเลที่สวยสุดใจ 🌊⛅
9. นิวซีแลนด์ – มิลฟอร์ดซาวด์ (Mitre Peak, Fiordland)

นิวซีแลนด์ขึ้นชื่อเรื่องวิวธรรมชาติฟิน ๆ Mitre Peak ใน Fiordland National Park คือหนึ่งในภูเขาที่นักปีนเขาฝันจะไปขึ้น 🌲❄️ เส้นทาง hiking กับปีนเขาผสมผสาน ทำให้ได้ทั้ง adrenalize และวิวทะเลสาบสุดอลัง
10. อิตาลี – โดโลไมต์ (Dolomites)

เทือกเขา Dolomites ในอิตาลีขึ้นชื่อเรื่อง หน้าผาหินปูนสูงชันและวิว alpine ที่ตะลึง มีเส้นทางปีนเขาแบบ via ferrata ที่ให้ทั้งความท้าทายและความปลอดภัย
เส้นทาง via ferrata สร้างขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อใช้เป็นทางลำเลียงทหาร แต่ปัจจุบันกลายเป็น attraction สำหรับนักปีนเขา
โลกของเรามี ภูเขาและเส้นทางปีนเขาที่หลากหลาย ตั้งแต่เอเวอเรสต์ที่สูงสุดในโลก จนถึง Croagh Patrick สำหรับสาย light trekking แต่ละที่มี เอกลักษณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ของตัวเอง การปีนเขาไม่ได้เป็นแค่การออกกำลังกาย แต่คือการสัมผัสโลกทั้งใบในมุมมองที่ต่างออกไป 🌍🏔️
ถ้าคุณเป็นสายผจญภัย ลองเลือกสักภูเขาที่ใช่ แล้วเตรียมตัวให้พร้อม…เพราะวิวสุดอลังการรอคุณอยู่!
สนใจจัดทัวร์กรุ๊ปเหมา หรือคณะดูงาน แบบมืออาชีพติดต่อเราได้ที่นี่ LINE OA : @tours2world https://lin.ee/ktnGCCsw
Product อื่นๆที่น่าสนใจอีกเพียบ ลองเข้าไปดูที่นี่สิ https://www.ej.co.th
อ่านบทความอื่นๆ คลิ๊กที่นี่เลยครับ https://www.ej.co.th/blog/