ไอซ์แลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ธรรมชาติที่โลกต้องตะลึง

ใครที่เคยคิดว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรใหม่ให้ค้นหาแล้ว ลองเก็บกระเป๋าแล้วบินไป ไอซ์แลนด์ (Iceland) ดูครับ รับรองว่าความคิดจะเปลี่ยนทันที! ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เกาะเล็ก ๆ กลางมหาสมุทรแอตแลนติก แต่เป็น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติกลางแจ้ง ที่มีทั้งภูเขาไฟพ่นไอร้อน น้ำตกอลังการเหมือนฉากในหนัง และธารน้ำแข็งที่ใหญ่จนเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลก Game of Thrones

1. น้ำตกกูลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall)

เริ่มจากหนึ่งในแลนด์มาร์กของประเทศ — น้ำตกกูลล์ฟอสส์ ที่ได้ชื่อว่า “น้ำตกทองคำ” 🌊✨ น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากตกลงมาจากหน้าผาสองชั้น เกิดละอองหมอกฟุ้งกระจาย และเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบจะเกิดรุ้งกินน้ำพาดสวยเหมือนภาพวาด

แต่เบื้องหลังความงามนี้มีเรื่องเล่าเด็ด ๆ นะครับ เมื่อร้อยกว่าปีก่อน นักธุรกิจต่างชาติอยากเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้า แต่ลูกสาวชาวบ้านคนหนึ่งชื่อว่า Sigríður Tómasdóttir ถึงกับเดินเท้า 120 กิโลเมตรไปประท้วงที่เมืองหลวง (เรียกได้ว่าเป็น “นักอนุรักษ์ยุคบุกเบิก”) จนสุดท้ายน้ำตกนี้ได้รับการคุ้มครองให้คนรุ่นหลังได้ชมความงาม

2. บลูลากูน (Blue Lagoon)

ถ้ามาไอซ์แลนด์แล้วไม่ได้ลงแช่ บลูลากูน (Blue Lagoon) ถือว่าพลาดอย่างแรง! 💦 ที่นี่คือสปาธรรมชาติกลางลานภูเขาไฟ น้ำเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เหมือน Photoshop และเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่ว่ากันว่าช่วยบำรุงผิวให้ใสกิ๊ง

หลายคนสงสัยว่า “เอ๊ะ! นี่เป็นของธรรมชาติ 100% เลยหรือเปล่า?” คำตอบคือ… ไม่เชิงครับ 😅 น้ำตรงนี้จริง ๆ มาจากการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพ แต่เพราะมีซิลิกาและแร่ธาตุเพียบ จึงกลายเป็นบ่อน้ำแร่สปาที่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวหลงรัก

3. ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull Glacier)

ฝั่งน้ำแข็งก็ไม่ธรรมดา เพราะไอซ์แลนด์มี ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ขนาดพื้นที่กว่า 8% ของประเทศเลยทีเดียว ❄️ เดินเข้าไปคือเหมือนหลุดไปสู่โลกน้ำแข็ง มีถ้ำสีฟ้าใสเป็นประกายราวกับเพชร

เกร็ดน่ารู้: ถ้ำนี้เกิดขึ้นจากการละลายของธารน้ำแข็งเมื่อฤดูร้อน พอถึงฤดูหนาวก็แข็งตัวใหม่ ทำให้รูปทรงเปลี่ยนไปทุกปี เรียกได้ว่าไม่มีใครได้เห็นถ้ำเหมือนกันซ้ำสอง!

4. แสงเหนือ (Northern Lights)

ของเด็ดที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากเห็นสักครั้งในชีวิตก็คือ แสงเหนือ (Aurora Borealis) 🌌 ที่จะโบกสะบัดร่ายรำบนท้องฟ้าเหมือนม่านผ้าไหมเรืองแสง สวยจนลืมหายใจ

เคล็ดลับเล็ก ๆ: ช่วงที่เหมาะที่สุดในการล่าแสงเหนือคือ กันยายน – มีนาคม และควรหนีออกไปนอกเมืองใหญ่ ๆ เพราะไฟถนนจะรบกวนการมองเห็น บางคนถึงกับลงทุนจองทัวร์ “ล่าแสงเหนือ” ที่คนขับรถจะพาคุณตระเวนหาฟ้าใส ๆ จนกว่าจะเจอ

5. เส้นทางวงกลมทองคำ (Golden Circle)

ถ้าใครมีเวลาน้อย แต่ยังอยากซึมซับความอลังการของธรรมชาติไอซ์แลนด์ แนะนำ ทัวร์วงกลมทองคำ (Golden Circle) ซึ่งจะพาไปครบทั้ง น้ำตกกูลล์ฟอสส์, อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir National Park) และ น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ (Geysir)

พูดถึงเกย์ซีร์ (Geysir) — คำนี้แหละครับที่กลายเป็นรากศัพท์ของคำว่า “Geyser” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายถึงน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นจากใต้ดินแบบพุ่งปรี๊ดดด! 💨 (ระวังอย่าไปยืนใกล้เกินไป เดี๋ยวได้อาบน้ำร้อนฟรีไม่รู้ตัว)

ไอซ์แลนด์ไม่ใช่แค่ประเทศ แต่เป็นเหมือนเวทีการแสดงของธรรมชาติ ที่จัดเต็มทั้งไฟ น้ำแข็ง น้ำตก ธารน้ำแข็ง และแสงเหนือ ใครที่รักการผจญภัย รักความสวยแปลกตา และอยากสัมผัสบรรยากาศเหมือนโลกอีกใบ บอกเลยว่า ไอซ์แลนด์คือคำตอบ 🌍✨

สนใจจัดทัวร์กรุ๊ปเหมา หรือคณะดูงาน แบบมืออาชีพติดต่อเราได้ที่นี่ LINE OA : @tours2world https://lin.ee/ktnGCCsw

Product อื่นๆที่น่าสนใจอีกเพียบ ลองเข้าไปดูที่นี่สิ https://www.ej.co.th

อ่านบทความอื่นๆ คลิ๊กที่นี่เลยครับ https://www.ej.co.th/blog/