หน้าแรก / ทัวร์ทั้งหมด / ITALY SWISS FRANCE มิลาน ลูเซิร์น ยอดเขามองต์บลังค์ ชาโมนิกซ์ ดิจอง ตลาดคริสต์มาสต์ปารีส
15.00 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
18.55 ออกเดินทางสู่ สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR835 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
22.30 เดินทางถึง สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และรอต่อเครื่อง
02.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิลาโน มัลเปนซา ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR123 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.35 เดินทางถึง สนามบินมิลาโน มัลเปนซา ประเทศอิตาลี หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตามรายการ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) (เดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo de Milan) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 157 เมตร และกว้างถึง 92 เมตร ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลานเปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิลาน เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่เมืองวาติกัน นำท่านเดินทางสู่ แกลลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittario Emanuele II) ที่นับเป็นศูนย์การค้าที่สวยงามหรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Vittorio Emanuele II Monument) ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆ ในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรอเนสซองส์อีก 1 ท่าน คือ เลโอนาร์โด ดาร์วินชี
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม (Como) (เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลสาบโคโมและเทือกเขาแอลป์ทำให้โคโมเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองนึงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกัน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านถ่ายรูปกับ ทะเลสาบโคโม (Como Lake) ที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี ทางล่างตอนเหนือของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ อันเปรียบเสมือนป้อมปราการทางธรรมชาติ ที่สร้างฉากหลังอันงดงามอลังการให้กับดินแดนแห่งนี้
นำท่านสู่ เมืองซาโมนิกส์ (Chamonix) (เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ซาโมนิกส์-มองต์บลังค์ เป็นเมืองของประเทศฝรั่งเศสที่อยู่ติดเขตชายแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศอิตาลี ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆทั้งหมด 16 หมู่บ้าน ซาโมนิกส์แบ่งเขตแดนกับเมือง Saint-Gervais-les-Bains และทั้ง 2 เมืองก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศสโดยมี วิวทิวทัศน์ยอดเขามองต์ บลังค์ (Mont Blanc) เป็นยอดเขาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปและเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตกสูงถึง 4,810 เมตร เป็นฉากหลัง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2)
ที่พัก Plan B Hotel Living, Chamonix ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำท่านนั่งรถไฟ ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขา ยอดเขามองต์บลังค์ (Mont Blanc) มีความหมายว่า “ภูเขาสีขาว” เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์และยุโรปตะวันตก มีความสูง 4,808 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ระหว่างชายแดนประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวเมืองชาโมนิกซ์ – มองบลังค์ ที่ความสูง 3,842 เมตร อีกทั้งยังมีจุดชมวิว ที่สามารถชมวิวได้ทั้ง 360 องศา เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่งดงามของยอดเขามองบลังค์รวมไปถึงยอดเขาโดยรอบที่ปกคลุมด้วยหิมะอันขาวโพลน จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงมายังเมืองซาโมนิกส์
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
นำท่านเที่ยวชมภายในตัวเมืองของหมู่บ้านซาโมนิกส์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ รูปปั้นผู้พิชิตยอดเขามงบล็อง (Jacques Balmat) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1786 ได้มีชายชาวซาโมนิกซ์ 2 คนนามว่า Jacques Balmat และ Michel-Gabriel Paccard เป็น 2 คนแรกที่พิชิตยอดเขามงบล็องได้สำเร็จและที่จัตุรัสกลางเมืองก็ได้สร้างรูปปั้นของ Jacques Balmat ยืนคู่กับ Horace Bénédict de Saussure เอาไว้ โดยทั้งคู่หันหน้าออกไปทางเทือกเขาที่อยู่ไกลสุดสายตา
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์สวิตฯ และมีบทบาทเป็นศูนย์กลางการทูตระหว่างประเทศเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (5) พิเศษ!! เมนูฟองดูว์ชีส
ที่พัก B&B Hotel, Geneva Airport ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
นำท่านชม น้ำพุเจ็ทโด้ (Jet d’Eau) หนึ่งในน้ำพุที่สูงที่สุดในโลกที่อยู่คู่กับนครเจนีวามานานกว่า 100 ปี เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ความสูง 140 เมตร สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมในเมือง จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา นำท่านชม ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) สถานที่ซึ่งได้รับ สมญานามว่าเป็น ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิตฯ มีลักษณะของทะเลสาบจะคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว เป็นทะเลสสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง นำท่านชม โบสถ์เซนต์ปิเตอร์ เจนีวา (St. Peter’s Cathedral) โบสถ์ถูกสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1150-1230 โบสถ์เซนต์ปีเตอร์มีทั้งสองสไตล์ คือ โรมันและโกธิค และมีระเบียงแบบนีโอ-คลาสสิก
นำท่านชม กำแพงแห่งการปฏิรูป (Reformation Wall) สถานที่ที่เป็นการแสดงความเคารพต่อบุคคลสำคัญ เหตุการณ์ และเอกสารของการปฏิรูปนิกายโปรเตสแตนต์ โดยแสดงภาพบุคคลเหล่านี้ในรูปปั้นและภาพนูนต่ำ The Wall อยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเจนีวา นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัส ปลาซดูบูร์ก เดอฟูร์ (Place du Bourg de Four) จัตุรัสใจกลางเมืองเก่าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเจนีวา ตั้งอยู่ในสมัยโรมันและเป็นหัวใจสำคัญของ Old Town มีริมถนนช้อปปิ้งของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ชื่นชมความงามของน้ำพุยุคกลาง และบรรดาอาคารบ้านเรือนบริเวณเขตเมืองเก่าเจนีวา ที่สวยงามและยังคงความคลาสสิก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลียง (Lyon) (เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองใหญ่อันดับสองของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางใต้ของปารีสลงมา มีฐานะเป็นเมืองหลวงของแคว้นโรน-แอลป์ (Rhone-Alpes) ตัวเมืองลียงมีแม่น้ำโรน (River Rhone) ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในเทือกเขาแอลป์ไหลผ่านใจกลางเมือง เป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองก็มักจะอยู่รวมตัวกันระหว่างแม่น้ำทั้งสองสายนี้เรียกว่าเขตเมืองเก่าลียง
นำท่านชม โบสถ์นอตเทรอดาม เดอโฟวิแยร์ (Basilique Notre-Dame de Fourvière) ตั้งอยู่บนยอดเขา ทำให้สามารถมองเห็นได้จากเกือบทุกที่ในเมืองลียง สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของเมือง แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในลียงด้วย ชื่นชมการตกแต่งภายในที่ประดับด้วยทองที่วิจิตรอลังการ และชมทิวทัศน์เมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ของชาวโรมันโบราณในปี 1896 โดยผสมผสานศิลปะไบแซนไทน์และโรมาเนสก์เข้าด้วยกัน
นำท่านชม มหาวิหารลียง (Cathédrale Saint-Jean-Baptiste) ตัวมหาวิหารเป็นที่รู้จักกันในชื่อโบสถ์ลียง และสร้างขึ้นมาเป็นเวลานานกว่า 300 ปี โดยเริ่มสร้างในศตวรรษที่ 12 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างที่ยาวนาน โดยบางส่วนสร้างขึ้นมาใหม่ และบางส่วนได้รับการบูรณะ นำท่านชม Place Bellecour จัตุรัสคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลียง เป็นศูนย์กลางกิจกรรมที่พลุกพล่านไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ว่าจะลิ้มลองรสชาติของอาหารท้องถิ่น ชื่นชมรูปปั้นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์ซึ่งรวบรวมสาระสำคัญของวัฒนธรรมและมรดกอันรุ่งเรืองของลียง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองดิจอง (Dijon) (เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโกตดอร์ในแคว้นบูร์กอญในประเทศฝรั่งเศส เมืองดิจองเป็นอดีตเมืองของจังหวัดเบอร์กันดี ประวัติศาสตร์ของดิจองเริ่มจากการตั้งรกรากของชาวโรมันยุคโบราณโดยชื่อเมืองว่า ดีวีโอ (Divio) ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางไปเมืองลียง
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว
ที่พัก ibis Gare, Dijon ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัส (Place de la République) เป็นจัตุรัสที่สำคัญในเมืองดิจอง โดยมีส่วนตรงกลางคือ Monument à la République ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวเพื่อรำลึกถึง Francois Carnot ประธานาธิบดีที่เป็นคนก่อตั้งสาธารณรัฐเมื่อปี 1888 โดยท่านจะได้เห็น อาสนวิหารนักบุญเบนีญแห่งดิจอง (Cathédrale Saint-Bénigne de Dijon) เป็นโบสถ์คาทอลิกสมัยศตวรรษที่ 13 ในสไตล์โกธิค อาคารหลังนี้อุทิศให้กับนักบุญเบนิกน์ เดอ ดิจอง และเป็นที่ฝังศพของฟิลิปที่ 3 ดยุคแห่งเบอร์กันดี ซึ่งโบสถ์ได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี ค.ศ. 1280 – 1393 และผ่านชม พระราชวังดยุคแห่งเบอร์กันดี (Palais des Ducs et des États de Bourgogne) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองดิจอง ก่อตั้งขึ้นประมาณปี ค.ศ. 880 โดยกษัตริย์การอแล็งเฌียง พระเจ้าหลุยส์ที่ 3 และพระเจ้าคาร์โลมันที่ 2 ตลอดจนสมาชิกเจ้าชายแห่งราชวงศ์ ในช่วงศตวรรษที่ 14 ดยุคฟิลิปป์ เลอ โบลด์ ได้สร้างที่ประทับของดยุคขึ้นใหม่จากนั้นนำไปรวมกับส่วน ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 และในปี ค.ศ. 1862 ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ นำท่านเดินทางไปที่ ถนนคนเดินลิเบอร์ตี้ (Rue de la Liberté) เป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมืองดิจอง ในปี ค.ศ. 2012 ถนนเส้นนี้ได้กลายเป็นถนนคนเดิน โดยข้างทาง เต็มไปด้วยอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 – 18 และมีร้านค้ามากมายให้ได้เลือกช้อปปิ้ง อาทิ ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร และในปัจจุบันได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งทางประวัติศาสตร์ด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (9)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์เลอ็อง (Orléans) (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสราว 130 ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส เป็นเมืองหลักของจังหวัดลัวแรในแคว้นซ็องทร์-วาลเดอลัวร์ ตัวเมืองตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำลัวร์ตรงที่แม่น้ำโค้งไปทางใต้ไปยังมาซิฟซ็องทราล นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์ Cathédrale Sainte-Croix โบสถ์แห่งนี้ได้รับการสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี 1862 หอคอยทางทิศเหนือบรรจุระฆังจำนวน 5 ใบที่ได้รับบริจาคโดย Georges Bollée ผู้ผลิตระฆังในเมือง Saint-Jean-de-Braye ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของออร์เลอ็อง นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัส Place du Martroi จัตุรสแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกำแพงเมือง ที่ลานจัตุรัสแห่งนี้ มีรูปปั้นผลงานของ Edme Gois ตั้งอยู่ ถ้าผ่านมาที่นี่ในช่วงบ่าย จะได้พบกับชาวเมืองออร์เลอ็องที่ออกมาพบปะ สัมผัสกับอากาศสดชื่น นั่งอ่านหนังสือและพูดคุยกับเพื่อนฝูง
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว
ที่พัก Best Western Hotel d’Arc, Orleans ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) (เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ปารีสเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ตั้งถิ่นฐานมามากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งของโลก
นำท่านถ่ายรูปด้านนนอกของ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louver Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี ค.ศ. 1793 มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะ ที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากสมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ พีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1988 ท่านได้ถ่ายรูปเช็คอินกับ เสาเบอเรนแห่งลูฟวร์ (Colonnes de Buren) เป็นหนึ่งในงานศิลปะที่น่าสนใจและแปลกตาของปารีส ตั้งอยู่ใน Cour d’Honneur หรือลานหน้าของ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ใกล้กับอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งถูกออกแบบโดยศิลปิน ดานีเอล เบอเรน (Daniel Buren) ในปี ค.ศ.1986 เป็นชุดเสาแนวตั้งที่มีความสูงต่างกันและมีลายลับขาวดำ ทำให้มันดูเหมือน เป็นงานศิลปะที่ทันสมัยและตัดกับบรรยากาศรอบๆ ที่เป็นสถาปัตยกรรมคลาสสิกของลูฟวร์
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (11) พิเศษ เมนูหอยเอสคาโก้
อิสระให้ท่านเดินชมพิพิธภัณฑ์และช้อปปิ้งสินค้าที่ ห้างปลอดภาษีเบนลักซ์ (Duty Free Benlux) ห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ในราคาที่ไม่แพงและบรรยากาศที่หรูหราตระการตา พร้อมทั้งมีพนักงานและข้อความภาษาไทยในห้างนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ห้างสรรพสินค้าแกลลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette) ตั้งอยู่บน Boulevard Haussmann ในเขตที่ 9 ของกรุงปารีสใกล้กับ Opera Garnier มีแบรนด์หลากหลายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ที่ร้านเพื่อให้เหมาะกับทุกงบประมาณ ตั้งแต่เสื้อผ้าสำเร็จรูปไปจนถึงแฟชั่นชั้นสูง สถาปัตยกรรมของร้านเป็นแบบอาร์ตนูโว มีโดมที่โดดเด่นและทัศนียภาพอันงดงามของกรุงปารีส ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมืองหลวงของฝรั่งเศส
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินกับตลาดคริสต์มาส (Tuileries Garden in Paris , Christmas Market 2025) (เทศกาลตลาดคริสต์มาสเมืองปารีสจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 จนถึง 6 มกราคม 2569 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนช่วงเวลาจัดเทศกาล ทางบริษัทฯจะปรับโปรแกรมเป็นเดินเล่นที่สะพานปงต์เนิฟ (Pont Neuf) แทน)
ที่พัก Holiday Inn Express Velizy, Paris ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)
นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน (Bateaux Parisien) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวในแม่น้ำแซนยอดนิยมเจ้าหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นบริษัททัวร์ที่ดำเนินกิจการทางเรือที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีสด้วย ใช้เวลาล่องประมาณ 1 ชั่วโมง ชมสถานที่สำคัญที่แม่น้ำทอดผ่าน อย่างเช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ สะพานอเล็กซานเดอร์ที่สาม เป็นกิจกรรมที่นิยมกันอย่างมากที่จะนั่งเรือชมเมืองปารีส เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์สำคัญถ้าหากใครได้มาเมืองปารีสต้องไม่พลาดกิจกรรมล่องเรือชมเมืองที่โรแมนติกที่สุดในฝรั่งเศส
นำท่านเดินทางสู่ ทรอกาเดโร (Trocadero) อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดงานนิทรรศการ สร้างในสถาปัตยกรรมแบบ Neo Classic ต่อมาได้มีการรื้อถอนอาคารเดิมและสร้างอาคารแบบใหม่โดยใช้ชื่อว่า ปาแลเดอชาโย (Palais de Chaillot) โดยมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับอาคารเดิม เพียงแต่ตรงกลางเว้นเป็นลานจัตุรัสเปิดโล่งแทน เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหอไอเฟลได้จากจัตุรัสทรอกาเดโรผ่านจากลานว่างแห่งนี้ ที่นี่จึงถือเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนปารีสต้องมาถ่ายรูปวิวหอไอเฟล ณ ลานแห่งนี้ อิสระให้ท่านถ่ายรูปคู่กับ วิวทิวทัศน์หอไอเฟล (Tour Eiffel) แลนด์มาร์คแห่งฝรั่งเศส เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซนในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส
นำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็งมีอายุกว่า 200 ปีสร้างขึ้นปี ค.ศ. 1806 หลังจากที่จักรพรรดิ นโปเลียนที่ 1 ได้รับชัยชนะจากยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่าสามสิบปี โดยใช้ศิลปะแบบ Neo Classic ที่ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณต่อมาถูกตั้งให้เป็นอนุสรณ์ของทหารฝรั่งเศสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามที่ทำเพื่อประเทศฝรั่งเศส
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
15.15 ออกเดินทางสู่ สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR040 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม)
23.35 เดินทางถึง สนามบินฮามัด กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อรอการเปลี่ยนเครื่องกลับสู่กรุงเทพฯ
02.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR834 (บริการอาหารและเครื่องดื่ม)
12.50 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ… พร้อมความประทับใจ