Wisteria in Tokyo

ทริป โตเกียว - ฟูจิ - วิสทีเรีย 5 วัน 3 คืน 
เดินทางวันที่ 27 เมษา - 1  พค 61
วันแรก สวน อาชิคากะ - โกเทมบะ เอ้าท์เลต
เดินทางด้วยสายการบิน สกู๊ต ทุกคนเตรียมพร้อมกับการที่จะไชมดอกไม้ที่สวยที่สุดที่ช่วงนี้ 
คือดอก วิสทีเรีย 


สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) คือสวนดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยดอกวิสทีเรียมากมายกว่า 350 ต้น ทั้งต้นที่มีดอกสีขาวสูงกว่า 80 เมตร และต้นวิสทีเรียที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ซึ่งมีอายุกว่า 150 ปี ที่คอยสร้างบรรยากาศอันงดงามราวความฝันให้กับสวนแห่งนี้ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนไปเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน อุโมงค์ดอกวิสทีเรียของที่นี่จะประดับประดาไปด้วยดอกวิสทีเรียหลากสีสัน ทั้งสีชมพู ม่วง ขาว และเหลือง นอกจากนี้ในตอนกลางคืนยังมีการจัดไฟไลท์อัพ ให้บรรยากาศอันงดงามที่แตกต่างไปจากเวลากลางวัน



 นอกจากมีดอกวิสทีเรีย ยังมีดอกไม้นานาชนิดที่อวดโฉมให้เราสัมผัสความงามอย่างเต็มที่


ภาพนี้เป็นเหมือนหลังคาที่มีดอกวิสทีเรียอยู่เต็มหลังคา เป็นคุ้มให้ผู้คนถ่ายรูปได้เต็มที่


 ดอกวิสทีเรียนั้นมีหลายสายพันธุ์ มีทั้ง สีขาว สีม่วง และสีชมพูอมม่วง 


 ความงดงามของดอกวิสทีเรีย 

ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่าดอกฟูจิมีลักษณะเป็นดอกไม้เล็กๆ จำนวนมากรวมตัวกันเป็นพวงระย้าคล้ายผลองุ่น และเป็นดอกไม้ที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมาแต่ครั้งโบราณ บานสะพรั่งเต็มที่หลังสิ้นสุดฤดูกาลของดอกซากุระในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม และปัจจุบันก็เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยเช่นกัน ในครั้งนี้เราจึงจะขอเชิญชวนให้ทุกคนได้ไปเที่ยวชมความงามของดอกวิสทีเรียนี้ด้วยกัน



โกเทมบะพรีเมี่ยมเอ้าท์เลต(Gotemba Premium Outlets) เป็น Outlet ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 90 นาที และเป็นทางผ่านสำหรับการไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ และทะเลสาบฮาโกเน่(Hakone) มีบรรยากาศแบบเอ้าดอร์ ภายในมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน และศูนย์อาหาร รวมถึงชิงช้าสวรรค์ที่สูง 50 เมตร
ร้านค้าต่างๆล้วนเป็นของพรีเมี่ยมแบรนด์จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ในครัวเรือน และสินค้าอิเลกทรอนิกส์ ราคาจะต่ำกว่าร้านค้าปลีกที่ขายทั่วไปในญี่ปุ่น ร้านส่วนใหญ่รับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเช่น Visa, Matercard, Maerican Express และ Diners นอกจากนี้ ร้านค้าที่ยังมีบริการ Tax Refund สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย

รายชื่อตัวอย่างแบรนด์ที่เปิดช้อปอยู่ที่โกเทมบะพรีเมี่ยมเอ้าท์เลต
Abercrombie & Fitch
Adidas
Alexander McQueen
Alexander Wang
Anna Sui
Balenciaga
Birkenstock
Burberry
Bvlgari
Cath Kidston
Celine
Columbia Sportswear
Diesel
G-Shock
Gucci
Issey Miyake
Kate Spade New York
Lacoste
Levi’s
Marc Jacobs
Nike
Oakley
Paul Smith
Ralph Lauren
Ray-Ban
Saint Laurent


วันที่2 โอชิโนะ ฮัคไค - ภูเขาไฟฟูจิ (ชั้น5) - 
หลวงพ่อโต ไดบุสึ - อิอ้อนมอล์




หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก(Oshino Hakkai) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะ(Lake Kawaguchiko) กับทะเลสาบยามานาคาโกะ(Lake Yamanakako) ซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของทะเลสาบแห่งที่ 6 ที่แห้งขอดไปเมื่อ 200-300 ปีที่ผ่านมา บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ
ถัดไปอีกบ่อหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำเย็นจากแหล่งน้ำได้โดยตรง บ่อนี้ค่อนข้างลึกและมีชีวิตทั้วพืช และปลาน้ำจืดขนาดใหญ่อาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และซุ้มรอบๆบ่อ ที่ขายทั้งผัก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ บางร้านยังขายมันเทศหวานย่าง และแครกเกอร์ข้าคั่ว(osenbei) บนเตาเล็กๆกลางแจ้งส่งกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มรสอีกด้วย


เขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสุโอกะ (Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับท็อปฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะไปเยือนมากที่สุดเนื่องจากภูเขาไฟฟูจินั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่งดงามของประเทศที่ชาวญี่ปุ่นผูกพัน ทั้งยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศอีกด้วย โดยภูเขาไฟฟูจินั้นมีความสูงถึง 3,776 เมตรเลยทีเดียว




พระใหญ่(Daibutsu) หรือที่ได้รับการขนานนามว่า “Great Buddha of Kamakura” พระใหญ่แห่งคามาคุระนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโคโตคุอิน(Kotokuin Temple) นับว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากๆของเมืองคามาคุระทีเดียวล่ะค่ะ โดยถือเป็นรูปปั้นพระที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นจะเป็นรองก็แค่เพียงพระใหญ่ที่วัดโทไดจิเมืองนาราเท่านั้นเอง ก่อนหน้าทีในเริ่มแรกนั้นองค์พระท่านไม่ได้ตั้งอยู่ด้านนอกอย่างที่เห็นๆอยู่อย่างในปัจจุบันหรอกนะคะ แต่เดิมทีเนี่ยองค์พระนั้นได้ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดหลายส่วนได้ถูกพายุไต้ฝุ่นทำลายลง ทำให้เหลือแต่องค์พระใหญ่ตั้งอยู่โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่ ซึ่งก็ก็ถือเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากๆเลยทีเดียวเชียวที่จะเห็นองค์พระพุทธรูปตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ภายนอกอาคารอย่างที่นี่


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อิออน มอลล์ นาริตะ


อิออนมอลล์(Aeon Narita Mall) เป็นห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน
นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade และซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งบางร้านไม่ต้องเสียภาษีสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนร้านอาหารก็มีให้เลือกมากมายจำหน่ายอาหารหลายประเภท ร้านกาแฟ และศูนย์อาหาร ถัดไปจากห้างสรรพสินค้ายังมีโรงภาพยนตร์ Humax Cinema เปิดให้บริการ


วันที่ 3 โตเกียว – วัดอาซากุสะ – ช้อปปิ้งชินจุกุ - ห้างไดเวอร์ซิตี้ โอไดบะ



วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple)ที่มีหลายๆชื่อที่คนนิยมเรียกขานกันทั้งวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง (Asakusa Kannon Temple) เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะและ) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว  โดยจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย บอกเลยว่านักท่องเที่ยวเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีใครไม่รู้จักวัดนี้แน่นอน ยิ่งในหมู่คนไทยแล้วล่ะก็เรียกได้ว่าถ้าไปโตเกียวต้องไปแวะเจิมวัดนี้แทบจะทุกคน โดยภาพส่วนใหญ่ก็จะเห็นแชะๆภาพพื้นหลังเป็นโคมแดงอันใหญ่ๆที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญมากๆของวัดแห่งนี้เลยทีเดียว ความนิยมเห็นง่ายๆเลยจากการที่มีผู้คนเดินทางมาสักการะและเที่ยวชมได้ทั้งตัววัดและบริเวณภายนอกแบบไม่ขาดสายเลยล่ะค่ะ
วัดที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดของเมืองโตเกียวแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และกลายมาเป็นวัดที่ฮอตฮอตอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวอย่างในปัจจุบันนี่เอง

เชื่อกันว่า  ถ้าเราปักธูปเสร็จแล้ว ให้ควักควันไฟเข้าหาอวัยอวะส่วนไหน ส่วนนั้นก็จะหายปวด เรื่องนี้ อยากให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณ ในการปฎิบัติได้เลยนะค่ะ



ระหว่างทางเดินเข้าไปที่วัด ทุกคนพร้อมใจในการเดินทาง ก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพบรรยากาศสวยข้างทาง 



ศาลเจ้าฮะนะโซะโนะ จินจะ คือศาลเจ้าในเขต ชินจูกุ ของ โตเกียว ก่อนปี 1590 มันเรื่องเล่าว่าเคยเป็นที่ที่เทพเจ้าซึ่งเคยคุ้มครอง ชินจูกุ นั้นสถิตอยู่ด้านในที่คอยดูแลในขณะที่ชินจูกุได้สร้างวัฒนธรรมขึ้นมามากมาย เช่น ร้านอาหารและสถานบันเทิง จึงเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งและการพัฒนาวัฒนธรรมและความบันเทิง

เป็นธรรมเนียมที่ทำกันในประเทศญี่ปุ่น คือ ก่อนที่เราจะเข้าไปขอพร พระ หรือเทพเจ้าแล้ว  เราต้องชำระ ล้างร่างกายของเราก่อน เหมือนเป็นการให้เกียตริสถานที่ 

สถานที่ถัดไป เราต้องไปช้อปปิ้ง และดูกันดั้มมมมมมมม คือ  โอไดบะ นั่นเองงงง


Odaiba เป็นแหล่งชอปปิ้งและความบันเทิงของโตเกียว ถ้าดูจากแผนที่แล้ว Odaiba มีสภาพเป็นเกาะอยู่ที่อ่าวโตเกียว ในสมัยเอโดะ ค.ศ.1603-1868 เกาะ Odaiba ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ (คำว่า daiba แปลว่าป้อมปราการ) ป้องกันการรุกรานของข้าศึก
ต่อมาอีก 100 กว่าปี เกาะ Odaiba ได้ถูกถมเพิ่มเพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ตึก สำนักงาน และ ท่าเรือ การถมทะเลในตอนนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในวงการก่อสร้างมาก ในปี ค.ศ. 1990 มีโรงแรม และศูนย์การค้ามาเปิดที่ Odaiba และเริ่มมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ เกิดขึ้นเช่นตึก Fuji TV Building, Telecom Center และ Tokyo Big Sight ตอนนี้ Odaiba เป็นเมืองใหม่ของโตเกียว มีผังเมืองสวยงาม ตึกรูปทรงแปลกๆ รถไม่เยอะเหมือนโตเกียว และไม่วุ่นวาย
การมาเที่ยวใน Odaiba ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เพียงพอแล้วครับ พื้นที่ของ Odaiba ไม่ใหญ่มาก





Shared


บริษัท เอ็กซ์คลูซีฟ เจอร์นีย์ จำกัด
 34/61 Moo 5 Chichakorn Village Kanchanapisek Road T.Saothonghin Nonthaburi 11140
 02-158-7065 Ext.101-112
 info@ej.co.th
 ej.co.th
 exclusive2thailand.com
 tours2japan.com

Member Of   
2022 ejtours2 Rights Reserved