เที่ยวโตเกียวฤดูใบไม่เปลี่ยนสี
ทริป โตเกียว ฟูจิ เดินทางวันที่ 28 พย - 2 ธค 60 5 วัน 3 คืน
1. วันแรก : ช่วงเช้าเราดูงาน ส่วนช่วงบ่าย เดินทางไปยังวัดนาริตะ และเข้าที่พัก
สนามบินนาริตะเวลา 08.20 น.
ท่าอากาศยานนานาชาตินะริตะเป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางเข้าและออกจากประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา เป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮะเนะดะ) เป็นสนามบินที่รองรับการขนส่งทางอากาศเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นและอันดับ 3 ของโลกซึ่งในกรเดินทางครั่้งนี้เราใช้สายการบิน SCOOT (TR)
สถานที่ท่องเที่ยว ที่เราจะไปทีแรกก็คือ วัดนาริตะซัน
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ(Naritasan Shinshoji Temple) เป็นวัดพุทธเก่าแก่ ขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนาริตะ สร้างขึ้นในปี 940 ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในวัดมีอาคารที่หลากหลายตั้งอยู่ในบริเวณที่กว้างขวาง เช่น ห้องโถงหลัก เจดีย์ 3 ชั้นสไตล์ Tahoto มีชื่อว่า Great Pagoda of Peace นอกจากนี้ยังมีสวนญี่ปุ่น และสวนยุโรปอีกด้วย
เส้นทางที่นำมาสู่วัดนาริตะซังคือถนนช้อปปิ้งโอโมเตะซังโดะ(Omotesando street) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จาสถานีรถไฟ เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านจำหน่ายสินค้างานฝีมือดั้งเดิม ร้านอาหาร และร้านของที่ระลึก ซึ่งเปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวมานานหลายศตวรรษ
วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมืองนาริตะที่อยู่ใกล้สนามบินมากที่สุด ในส่วนของความเก่าแก่นั้นขอบอกเลยว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ความเก่าแก่จึงเพิ่มความขลังและศักดิ์สิทธิ์ให้แก่วัดแห่งนี้ ทำให้วัดมีผู้คนมากกว่าสามล้านคนแวะมาสักการะขอพรในช่วงวันขึ้นปีใหม่
วัดนาริตะ อยู่บนเขาเล็กๆ สักเกตมีบันไดขึ้นหลายชั้นค่ะ กว่าจะถึงตัววัด
วัดกว้างขวางแห่งนี้ อบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดสง่างามจากโครงสร้างของสิ่งก่อสร้าง
ที่ได้รับเลือกให้เป็นสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมนั่นเอง
ไม่ว่าจะประตูทางเข้าที่มีชื่อว่า โซมง อันเป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ หรือจะเป็นเจดีย์สามชั้นและโบสถ์ต่าง ๆ ก็ล้วนมีความเก่าแก่สวยงาม
บริเวณข้างเคียงของวัดยังมีสวน Naritasan ที่มีอาณาเขตกว้างขวางและเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติจากต้นไม้นานาพันธุ์ ให้บรรยากาศร่มเย็นไปทั่วบริเวณ
บรรยากาศสวนดอกไม้ในวัดนาริตะซัน ใบไม่กำลังเปลี่ยนสีสวยงามมาๆ มีทั้งสีแดง สีส้ม และสีเหลือง ปนกันไป
วันที่ 2 : วัดพระใหญ่ไดบุสึ คามาคุระ โกเทมบะ เอ้าเลท ล่องเรือทะเลสาป อาชิ
คามาคุระ(Kamakura) เป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว มาเที่ยวได้ง่ายๆห่างจากโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ในสมัยก่อนนั้นคามาคุระเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญทางการทหาร เนื่องจากท่านมินาโมโต้ โยริโตโม้ (Minamoto Yoritomo) ได้เลือกเมืองนี้ให้เป็นหลักของฝ่ายทหารในปี 1192 แต่หลังจากศตวรรษที่ 14 เมืองนี้ก็ค่อยๆหมดอำนาจทางการปกครองลง และได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองเกียวโตตะวันออก (Kyoto of Eastern Japan) เนื่องจากมีวัด ศาลเจ้า และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่สวยงามทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงซัมเมอร์
บรรยากาศรอบๆของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มีความงดงามเป็นอย่างมาก
Gotemba Premium Outlet คือเอาท์เลทที่มีชื่อเสียงที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ แถมวิวทิวทัศน์รอบๆ ก็ยังอยู่ในระดับไม่ธรรมดา อันเนื่องมาจากตั้งอยู่บนฐานของภูเขาไฟฟูจิเลย แถมยังไม่ไกลจากทะเลสาบฮาโกเนะอีกต่างหาก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับพรีเมียมทั้งสินค้าและทิวทัศน์เลยทีเดียว
ล่องเรือโจรสลัด ทะเลสาปอาชิ ทัศนียภาพจากดาดฟ้าเรือในวันที่อากาศสดใสพร้อมด้วยตัวละครเด่นที่ขาดไม่ได้คือ ภูเขาไฟฟูจิ ที่ท่านจะได้ชื่นชมเป็นระยะเวลา 3-5 นาที หลังจากที่ออกจากท่าเรือ โมโตะ-ฮาโกเน่ แล้ว ท่านจะพบประตูโทริอิสีแดงของชินโต ตัดผ่ากลางที่ไม่ควรพลาด
หลังจากเพลิดเพลินกับภาพอันสวยงามบนดาดฟ้าแล้ว การสำรวจเรือในส่วนที่เหลือก็เป็นไอเดียที่ดีไม่ใช่น้อย หรือจะนั่งจิบกาแฟร้อน ๆ เพื่อความผ่อนคลายและดื่มด่ำไปกับเรือทัศนาจรลำนี้ก็อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
วันที่ 3 ภูเขาไฟฟูจิ ชั้น 5 - วัดอาซากุซะ - ชินจูกุ
ภูเขาไฟฟูจิ ชั้น 5 เป็นภูเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศญี่ปุ่น ราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) ตั้งอยู่บริเวณ จังหวัดชิซุโอะกะ และ จังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ โตเกียว พื้นที่โดยรอบ ประกอบด้วย ทะเลสาบฟูจิทั้งห้าอุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และ น้ำตกชิระอิโตะ โดยในวันที่อากาศแจ่มใสสามารถมองเห็นจาก โตเกียว ได้ ในปัจจุบันภูเขาได้ถูกจัดโดยนักวิทยาศาสตร์อยู่ในลักษณะของภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ ระเบิดครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2250
ไหนๆก็มาถึงภูเขาไฟฟูจิถ้าเราไม่ถ่ายรูปก็จะมาไม่ถึงนะจ๊ะ
วัดเซนโซ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดอาซากุสะ เป็นวัดพุทธในย่านอะสะกุสะ เขตไทโต โตเกียว เป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว แรกเริ่มเคยเป็นวัดในสายเทนได ต่อมาได้แยกเป็นอิสระหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณติดกับวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอาซากุสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต
วัดเซนโซเป็นสถานที่จัดเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียว เทศกาลมีระยะเวลา 3-4 วัน ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างนี้ถนนใกล้เคียงจะปิดการจราจรตั้งแต่เช้าจนถึงหัวค่ำ
วัดเซนโซ นี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระโพธิสัตว์คันนง ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ประมาณปี ค.ศ. 628 มีชาวประมง 2 พี่น้อง ชื่อว่า ฮิโนคุมะ ฮามานาริ และฮิโนคุมะ ทาเคนาริ ทุกวันจะออกหาปลาที่แม่น้ำสุมิดะ มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นทั้งวันจับปลาไม่ได้สักตัว จึงอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้จับปลาได้สักตัว เพื่อกลับไปทานเป็นอาหารเย็น พอเหวี่ยงแหออกไป สิ่งที่ติดแหขึ้นมา กลับเป็นพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว จึงนำไปให้หัวหน้าหมู่บ้านของทั้งสองชื่อว่า ฮาจิโนะ นากาโมโตะ หัวหน้าหมู่บ้านได้ตระหนักถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่กวนอิม จึงได้เปลี่ยนแปลงบ้านของตนในอาซากุสะให้กลายเป็นวัดขนาดเล็ก เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้บูชา ทั้งชาวบ้านและเหล่าซามูไรมักจะเดินทางมาขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมเป็นประจำ และสิ่งที่ขอพรไปนั้นก็มักจะสมปรารถนาอยู่เสมอ ๆ ทำให้ชาวบ้านและเหล่าซามูไรมีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่กวนอิมนี้ ได้แพร่กระจายไปทั่วญี่ปุ่น มีคนจากทั่วสารทิศเดินทางมาวัดอาซากุสะเพื่อสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิม จนล่ำลือไปถึงท่านโชกุน ท่านโชกุนจึงได้ให้มีการสร้างอาคารหลังใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ. 645 และต่อเติมส่วนต่าง ๆ เรื่อยมาอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั้น
ชินจูกุ สถานีชินจูกุเป็นสถานีรถไฟที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก ที่นี่มีรถไฟให้บริการอยู่มากถึง 5 บริษัท รวมทั้งบริษัทรถไฟโอดะคิว บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟชินจูกุมีแหล่งช้อปปิ้งอยู่บริเวณทางออกทิศตะวันออก และทางออกทิศใต้ อีกทั้งยังมีร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่และร้านหนังสืออยู่บริเวณทางออกทิศตะวันตก คาบุกิโจ แหล่งท่องราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ติดกับสถานีทางทิศเหนือสำหรับการช้อปปิ้ง
ยังมีห้างสรรพสินค้าโอดะคิวและ โอดะคิวฮัลค์ ศูนย์การค้าครบวงจรที่ตั้งของ Bic Camera ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ สำหรับแบรนด์แฟชั่นที่ทันสมัย ทางออกทิศตะวันตกไปจนถึงทางออกทิศใต้ คุณจะได้พบกับร้านของแบรนด์ชั้นนำต่างๆ รวมทั้งร้านขายสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องอาหารการกิน ที่นี่มีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทาน ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารต่างๆ จากทั่วโลก ที่นี่มีตั้งแต่ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นราคาปานกลางไปจนถึงภัตตาคารชั้นเลิศหรู
วันที่ 4 เดินทางกลับกรุงเทพฯ
